อุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยในอาคารคืออะไร? มีอะไรบ้าง และความสำคัญของการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยในอาคาร

อุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยในอาคารคืออะไร? มีอะไรบ้าง

อุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยในอาคาร คือ อุปกรณ์หรือระบบที่ออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงจากไฟไหม้ ป้องกันการลุกลาม และเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัยในอาคาร โดยมีทั้งระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ระบบควบคุมเพลิง และอุปกรณ์ช่วยอพยพ

ประเภทของอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยในอาคารหลัก ๆ มีดังนี้

1. ระบบตรวจจับและแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (Fire Detection and Alarm Systems)

• Smoke Detector (เครื่องตรวจจับควัน) – ตรวจจับอนุภาคควันจากไฟ
• Heat Detector (เครื่องตรวจจับความร้อน) – ตรวจจับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ
• Fire Alarm Control Panel – ศูนย์ควบคุมระบบแจ้งเหตุ
• Manual Call Point (ปุ่มกดแจ้งเหตุด้วยมือ) – ใช้เมื่อผู้พบเห็นไฟสามารถกดแจ้งเหตุเองได้
• Sounder/Alarm Bell – ส่งเสียงเตือนภัยเมื่อเกิดเหตุ

2. ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ (Fire Suppression Systems)

• ระบบสปริงเกลอร์ (Sprinkler System) – ฉีดน้ำเมื่อเกิดเพลิงไหม้
• ระบบดับเพลิงด้วยแก๊ส (Clean Agent Systems เช่น FM-200, Novec 1230) – ใช้ในห้องเซิร์ฟเวอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
• ระบบดับเพลิงด้วยโฟม (Foam System) – ใช้กับเพลิงที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันหรือสารเคมี

3. ถังดับเพลิงแบบมือถือ (Portable Fire Extinguishers)

• ประเภท A: สำหรับวัสดุธรรมดา (ไม้, กระดาษ)
• ประเภท B: สำหรับของเหลวติดไฟ (น้ำมัน, สี)/li>
• ประเภท C: สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า
• ประเภท K: สำหรับห้องครัว (น้ำมันทำอาหาร)

4. อุปกรณ์ช่วยอพยพและเส้นทางหนีไฟ

• ป้ายทางหนีไฟ (Exit Sign)
• ไฟฟ้าสำรองฉุกเฉิน (Emergency Lighting)
• ประตูหนีไฟ (Fire Door)/li>
• บันไดหนีไฟ (Fire Escape Stairs)

5. ระบบป้องกันควัน (Smoke Control System)

• Smoke Ventilation Fan – พัดลมระบายควัน
• Fire Damper – บานปิดกั้นไฟในระบบท่ออากาศ

ความสำคัญของการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยในอาคาร

ความสำคัญของการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยในอาคาร ถือเป็นหัวใจหลักของการดูแลความปลอดภัยในสถานที่ที่มีผู้คนอยู่อาศัยหรือทำงาน ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน โรงงาน ที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า หรือโรงเรียน อุปกรณ์เหล่านี้สามารถช่วยลดความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างมีนัยสำคัญ

1. ป้องกันการสูญเสียชีวิต

• เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ การตรวจจับและแจ้งเตือนอย่างทันท่วงทีจะช่วยให้ผู้อยู่ในอาคารสามารถหนีออกมาได้ทัน
• ลดโอกาสเกิดภาวะสำลักควันหรือติดอยู่ในอาคารที่กำลังลุกไหม้

2. ลดความเสียหายต่อทรัพย์สิน

• ระบบสปริงเกลอร์หรือระบบดับเพลิงอัตโนมัติสามารถควบคุมหรือดับไฟก่อนที่ไฟจะลุกลามไปยังพื้นที่อื่น
• ช่วยให้การดำเนินธุรกิจหรือการใช้ชีวิตกลับสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น

3. เพิ่มความมั่นใจในการใช้อาคาร

• ผู้พักอาศัยและผู้ทำงานในอาคารจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเมื่อทราบว่าอาคารมีระบบป้องกันอัคคีภัยที่ได้มาตรฐาน

4. เป็นข้อกำหนดทางกฎหมาย

• อาคารหลายประเภท เช่น อาคารสูง โรงงาน หรือสถานศึกษา ถูกกำหนดโดยกฎหมายหรือมาตรฐานความปลอดภัย ให้ต้องติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย เช่น ตามข้อกำหนดของ กฎหมายควบคุมอาคาร พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร หรือมาตรฐาน มยผ. รวมถึง NFPA (ในกรณีอาคารระดับสากล)

5. ช่วยให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำงานได้ง่ายขึ้น

• การมีจุดส่งน้ำดับเพลิง ถังดับเพลิง สายฉีดน้ำ และแผนผังเส้นทางหนีไฟที่ชัดเจน จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ได้รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น

6. ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

• การลงทุนในระบบป้องกันไฟที่มีประสิทธิภาพอาจช่วยลดเบี้ยประกันภัยของอาคาร
• ลดความเสี่ยงการสูญเสียธุรกิจจากเหตุเพลิงไหม้ที่หยุดการดำเนินงานเป็นเวลานาน

วัตถุประสงค์หลักของระบบเหล่านี้

• ตรวจจับเพลิงไหม้ได้รวดเร็ว
• แจ้งเตือนผู้ที่อยู่ในพื้นที่ทันที
• จำกัดการลุกลามของไฟ
• ช่วยให้คนสามารถอพยพออกจากอาคารได้อย่างปลอดภัย
• ช่วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น

หากสนใจในการสั่งชื้อ อุปกรณ์ฟ้องกันอัคคีภัยในอาคาร (Fire life safety) สามารถเช็คราคาล่าสุดที่ตรงใจและตรงต่อการนำไปใช้งานคุ้มค่ากับงบประมาณโดยการแอดไลน์ได้ที่นี่เลย @northpower หรือ คลิกสอบถามแอดมิน ที่คอยบริการให้ข้อมูลสินค้าช่วยเทียบสเปคสินค้าตั้งแต่ 8:00 - 17:00 แอดได้เลย อย่ารอช้า