ไฟสัญญาณ ( Signal Light หรือ Indicator Light ) คืออะไร ?

ไฟสัญญาณ ( Signal Light หรือ Indicator Light ) คืออะไร ?

ไฟสัญญาณ (Signal Light หรือ Indicator Light)
เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าหรืออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แสดงสถานะ การทำงาน หรือเตือนภัยของระบบต่าง ๆ ผ่านการเปล่งแสงที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยทั่วไปมักมีลักษณะเป็นหลอดไฟขนาดเล็กหรือไฟ LED ที่ติดตั้งไว้ในเครื่องจักร แผงควบคุม ยานพาหนะ หรือระบบไฟจราจร เพื่อส่งสัญญาณ ให้ผู้ใช้งานหรือผู้ควบคุมรับรู้ข้อมูลสำคัญที่เกิดขึ้นในระบบนั้น ๆ


ประเภทของ ไฟสัญญาณ ( Signal Light หรือ Indicator Light ) แบบต่างๆ

1. แบ่งตามลักษณะการใช้งาน

ภาพ ประเภท การใช้งาน ลักษณะเฉพาะ
ไฟสัญญาณในอุตสาหกรรม ไฟสัญญาณในอุตสาหกรรม (Industrial Signal Lights)
  • ใช้เป็นตัวบ่งบอกว่าเครื่องจักรกำลังทำงานหรือหยุดทำงาน
  • ใช้แจ้งเตือนว่ามีอุณหภูมิหรือแรงดันผิดปกติหรือไม่
  • แสดงว่ากำลังอยู่ในโหมดอัตโนมัติหรือแมนนวล
  • โครงสร้างแข็งแรง ทนทานต่อฝุ่น ความชื้น และแรงสั่นสะเทือน
  • อาจมีหลายชั้นหรือหลายสีในหลอดเดียวกัน (Tower Light หรือ Stack Light)
ไฟสัญญาณจราจร ไฟสัญญาณจราจร (Traffic Signal Lights)
  • เขียว = ไปได้
  • เหลือง = เตรียมหยุด
  • แดง = หยุด
  • มองเห็นได้ชัดในระยะไกล
  • มีระบบควบคุมเวลาหรือควบคุมตามปริมาณการจราจร
  • ทนแดด ทนฝน และทำงานต่อเนื่อง 24 ชม.
ไฟสัญญาณเตือนภัย ไฟสัญญาณเตือนภัย (Alarm Signal Lights)
  • เตือนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม แก๊สรั่ว หรือการบุกรุก
  • มักทำงานร่วมกับเสียงเตือน (ไซเรน)
  • ใช้สีแดงหรือส้ม พร้อมแสงกระพริบเพื่อดึงดูดความสนใจ
  • ติดตั้งตามอาคาร โรงงาน หรือพื้นที่อันตราย
ไฟสัญญาณในยานพาหนะ ไฟสัญญาณในยานพาหนะ (Vehicle Signal Lights)
  • ไฟเลี้ยว (Turn Signal)
  • ไฟเบรก (Brake Light)
  • ไฟฉุกเฉิน (Hazard Light)
  • ไฟแสดงสถานะ (Check Engine, น้ำมันต่ำ)
  • ตอบสนองทันทีเมื่อผู้ขับสั่งงาน
  • ใช้ไฟ LED ที่ตอบสนองเร็วและประหยัดพลังงาน
ไฟสัญญาณในสมาร์ทโฮม ไฟสัญญาณในระบบควบคุมอัตโนมัติและสมาร์ทโฮม
  • ไฟแสดงสถานะของระบบล็อกประตู
  • ไฟเตือนการเคลื่อนไหวหรือการบุกรุกในระบบรักษาความปลอดภัย
-

2. แบ่งตามลักษณะของการแสดงผล

ไฟสัญญาณแบบคงที่ (Steady Light)

  • เปิดติดค้างตอนการใช้งาน เพื่อแสดงสถานะอย่างต่อเนื่อง
  • ใช้แสดงสถานะปกติ เช่น เครื่องเปิดการทำงาน หรือ ปิดการทำงานอยู่

ไฟสัญญาณแบบกระพริบ (Flashing Light)

  • กระพริบเป็นจังหวะเพื่อดึงดูดความสนใจเพื่อให้มีผู้พบเห็นได้ง่าย
  • มักใช้ในสถานการณ์ที่ต้องการเตือนอันตราย หรือในเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ

ไฟสัญญาณแบบหมุน (Rotating Light)

  • แสงจะหมุนรอบตัว หรือมีเลนส์หมุนเพื่อสร้างแสงหมุน
  • มักใช้ในรถฉุกเฉินหรือโรงงานที่มีเสียงดังมาก ต้องอาศัยการมองเห็นเป็นหลัก

3. แบ่งตามเทคโนโลยีของแหล่งกำเนิดแสง

หลอดไส้ (Incandescent)

  • ใช้เทคโนโลยีแบบเก่า และยังมีความร้อนที่สูง
  • ให้ความสว่างในระดับปานกลาง และยังมีอายุการใช้งานที่สั้น

หลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent)

  • ใช้พลังงานในการทำงานน้อยกว่าแบบหลอดไส้
  • ให้แสงที่กระจาย แต่ไม่เหมาะกับการใช้เป็นไฟกระพริบ

หลอด LED (Light Emitting Diode)

  • เป็นประเภทที่นิยมมากที่สุดในยุคปัจจุบัน
  • ข้อดีคือประหยัดไฟ มีอายุการใช้งานยาวนาน และให้แสงสว่างที่สูง
  • รองรับการใช้งาน เปิด/ปิด หรือกระพริบบ่อย ๆ ได้ดี

ไฟเลเซอร์ (Laser Indicator – ใช้เฉพาะทาง)

  • ใช้ในบางอุตสาหกรรมที่ต้องการแสง ที่มีความแม่นยำสูง เช่น การจัดแนว

4. แบ่งตามตำแหน่งการติดตั้ง

ไฟสัญญาณแบบติดตั้งบนแผงควบคุม (Panel Mount Signal Light)

  • มักใชงาน้ในแผงควบคุมเครื่องจักร หรือตู้สวิตช์บอร์ด
  • มีขนาดที่เล็กกะทัดรัด และสามารถสื่อสารสถานะต่างๆได้อย่างชัดเจน

ไฟสัญญาณแบบติดตั้งบนเสา (Tower Light / Stack Light)

  • มีลักษณะเป็นแท่งแนวตั้งที่มีหลายชั้น แต่ละชั้นแสดงสถานะที่แตกต่างกัน
  • มักใช้ในสายการผลิต หรือเครื่องจักรที่มีระบบอัตโนมัติ

ไฟสัญญาณติดเพดาน / ผนัง (Wall/Ceiling Mount)

  • มักถูกใช้งานในพื้นที่ ที่มีขนาดกว้าง เช่น โรงงาน สนามบิน พื้นที่อันตราย

5. แบ่งตามสภาพแวดล้อมที่ใช้งาน

สำหรับใช้งานภายใน (Indoor Type)

  • ไม่ต้องมีมาตรฐานที่ทนฝน หรือแสงแดดก็ได้
  • มักจะใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา เช่น พลาสติก เป็นต้น

สำหรับใช้งานภายนอก (Outdoor Type)

  • ได้ได้มาตรฐานที่มีการรับรองว่าสามารถใช้งานในกลางแจ้งได้ และสามารถทนแดด ทนฝน รวมไปถึงกันฝุ่นได้ดี (IP65 ขึ้นไป)
  • ใช้วัสดุโครงสร้างที่แข็งแรง เช่น อะลูมิเนียมหรือโพลีคาร์บอเนต

สีของ ไฟสัญญาณ( Signal Light ) และความหมายมาตรฐาน

สีของไฟสัญญาณและความหมายมาตรฐาน
 เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของระบบการแจ้งเตือนหรือแสดงสถานะ โดยการใช้ "สี" ในไฟสัญญาณมีจุดประสงค์เพื่อ สื่อความหมายที่เข้าใจง่าย ชัดเจน และเป็นสากล เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถรับรู้และตอบสนองต่อสถานะหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ซึ่งการใช้สีในไฟสัญญาณนี้มีการกำหนดมาตรฐาน อย่างแพร่หลายทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ เช่น มาตรฐาน IEC 60204-1, ISO 3864, ANSI Z535, หรือมาตรฐานอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น JIS

1. สีแดง (Red) – สัญญาณเตือนภัยหรือหยุดทันที

ความหมายทั่วไป

  • อันตราย
  • ภัยฉุกเฉิน
  • ความผิดปกติร้ายแรง
  • หยุด (STOP)
  • ไม่อนุญาตให้ดำเนินการต่อ

ลักษณะการใช้งาน

  • ใช้เมื่อเครื่องจักรหรือระบบเกิดความผิดพลาดร้ายแรง เช่น การลัดวงจร อุณหภูมิสูงเกิน
  • ใช้เป็น สัญญาณฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้, การรั่วไหลของแก๊ส, หยุดเครื่องโดยทันที
  • บางครั้งใช้ในปุ่ม Emergency Stop (E-Stop) บนเครื่องจักร

ตัวอย่างในสถานที่ทำงาน

  • ไฟแดงกระพริบบนเครื่องจักร หมายถึงต้องหยุดการใช้งานทันที
  • ไฟสีแดงติดบนตู้ควบคุมไฟฟ้า แสดงว่าระบบมีปัญหาภายในที่อาจก่อให้เกิดอันตราย

2. สีเหลือง/สีอำพัน (Yellow / Amber) – สัญญาณเตือนหรือระวัง

ความหมายทั่วไป

  • มีบางสิ่งผิดปกติเล็กน้อย
  • ต้องระมัดระวัง
  • ระบบอยู่ในสถานะ “เตรียมตัวหยุด” หรือ “ไม่เสถียร”
  • การรอการตัดสินใจหรือการดำเนินการจากมนุษย์

ลักษณะการใช้งาน

  • ใช้แจ้งเตือนว่าระบบทำงานไม่สมบูรณ์ หรืออาจมีการหยุดการทำงานในไม่ช้า
  • ใช้เตือนก่อนเกิดความผิดพลาดขั้นรุนแรง
  • ใช้ในไฟจราจรเพื่อให้เตรียมหยุด (เช่น ไฟเหลืองก่อนเปลี่ยนเป็นแดง)

ตัวอย่างในสถานที่ทำงาน

  • ไฟเหลืองติดบนเครื่องจักรแปลว่ามีความผิดปกติ เช่น แรงดันต่ำ
  • ไฟแสดงสถานะในระบบ Smart Home แสดงว่าอุปกรณ์บางชิ้นเชื่อมต่อไม่สมบูรณ์

3. สีเขียว (Green) – สัญญาณอนุญาตหรือทำงานได้ปกติ

ความหมายทั่วไป

  • สถานะปกติ
  • ระบบพร้อมทำงาน
  • การทำงานเสร็จสมบูรณ์
  • ปลอดภัย
  • ไปต่อได้

ลักษณะการใช้งาน

  • ใช้แสดงว่าเครื่องจักรหรือระบบพร้อมใช้งานหรือทำงานปกติ
  • ใช้ในปุ่มกดเพื่อเริ่มทำงาน (เช่น ปุ่ม “Start” บนเครื่องจักร)
  • ในระบบควบคุมจราจรหรือไฟสัญญาณทางเดิน: “ไปได้”

ตัวอย่างในสถานที่ทำงาน

  • ไฟสีเขียวบนแผงควบคุมแสดงว่าไม่มีข้อผิดพลาด
  • ไฟสถานะเขียวบนตู้สวิตช์ไฟแสดงว่าไฟเข้าระบบพร้อมใช้งาน

4. สีน้ำเงิน (Blue) – การร้องขอการปฏิบัติหรือสถานะพิเศษ

ความหมายทั่วไป

  • ต้องการการปฏิบัติหรือการตอบสนองจากผู้ใช้งาน
  • กำลังอยู่ในโหมดพิเศษ เช่น การตั้งค่า หรือการทดลอง
  • บางระบบใช้เพื่อสื่อถึง “คำสั่งที่ได้รับอนุมัติ” หรือ “ขั้นตอนพิเศษ”

ลักษณะการใช้งาน

  • แสดงว่าสถานะต้องมีการป้อนข้อมูลหรือการดำเนินการบางอย่างจากผู้ใช้งาน
  • ในบางกรณีอาจใช้เป็นสถานะ “อนุญาตพิเศษ” หรือ “ทำงานเฉพาะทาง”

ตัวอย่างในสถานที่ทำงาน

  • เครื่องจักรแสดงไฟสีน้ำเงินเพื่อขอให้ผู้ปฏิบัติงานโหลดชิ้นงาน
  • ไฟสีน้ำเงินในระบบสมาร์ทโฮมบ่งชี้ว่าอยู่ในโหมดเชื่อมต่อ

5. สีขาว (White) – สถานะทั่วไปหรือกำลังดำเนินการ

ความหมายทั่วไป

  • ระบบกำลังดำเนินการบางอย่างที่ไม่ใช่เหตุฉุกเฉิน
  • การทำงานทั่วไป เช่น “เครื่องกำลังอุ่น” หรือ “เปิดระบบไว้”
  • ใช้แทนสถานะที่ไม่มีความเสี่ยง

ลักษณะการใช้งาน

  • ใช้ในระบบอัตโนมัติเพื่อแสดงว่าอยู่ในโหมดสแตนด์บายหรือโหมดเริ่มต้น
  • ใช้แสดงข้อมูลที่เป็นกลาง ไม่เกี่ยวกับความปลอดภัยโดยตรง

ตัวอย่างในสถานที่ทำงาน

  • ไฟสีขาวในห้องควบคุมแสดงว่าระบบกำลังรันอัตโนมัติแต่ยังไม่เริ่มผลิต
  • ในลิฟต์: ไฟขาวแสดงเลขชั้นที่ลิฟต์กำลังจะไปถึง

หากสนใจในการสั่งชื้อ ไฟสัญญาณเตือน สามารถเช็คราคาล่าสุดที่ตรงใจและตรงต่อการนำไปใช้งานคุ้มค่ากับงบประมาณโดยการแอดไลน์ได้ที่นี่เลย @northpower หรือ คลิกสอบถามแอดมิน ที่คอยบริการให้ข้อมูลสินค้าช่วยเทียบสเปคสินค้าตั้งแต่ 8:00 - 17:00 แอดเลยไม่ต้องรอ