คอลเลกชัน: ข้อต่ออ่อน (Expansion Joint) Yoshitake

Expansion Joint Yoshitake คืออะไร

• ข้อต่อขยาย Yoshitake อุปกรณ์สำคัญในการป้องกันท่อ
• ข้อต่อขยาย Yoshitake เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการขยายตัวและหดตัวของท่อที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
• ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ท่อเกิดความเสียหายจากแรงดันที่เกิดขึ้นจากการขยายตัวดังกล่าว

ทำไมต้องใช้ข้อต่อขยาย Yoshitake ?

• ป้องกันการรั่วซึม: ข้อต่อขยายช่วยป้องกันการรั่วซึมของของเหลวหรือก๊าซจากท่อ
• ยืดอายุการใช้งาน: ช่วยยืดอายุการใช้งานของท่อและอุปกรณ์อื่นๆ ในระบบ
• ลดเสียงรบกวน: ช่วยลดเสียงรบกวนที่เกิดจากการขยายตัวและหดตัวของท่อ
• เพิ่มความปลอดภัย: ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานระบบท่อ

ขนาดของ Expansion Joint จาก Yoshitake ที่มีให้เลือกใช้งาน มีดังนี้:

• 15A (1/2")
• 20A (3/4")
• 25A (1")
• 32A (1-1/4")
• 40A (1-1/2")
• 50A (2")
• 65A (2-1/2")
• 80A (3")
• 100A (4")
• 125A (5")
• 150A (6")
• 200A (8")
• 250A (10")
• 300A (12")
• 350A (14") ขึ้นไป

ขนาดเหล่านี้ครอบคลุมการใช้งานในระบบท่อที่หลากหลายตั้งแต่ระบบขนาดเล็กไปจนถึงระบบขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมซึ่งExpansionJointจะถูกเลือกตามขนาดท่อและความต้องการเฉพาะของระบบ

วัสดุตัวถังข้อต่อขยาย Yoshitake

ข้อต่อขยาย Yoshitake มักผลิตจากวัสดุที่ทนทานและเหมาะสมสำหรับการใช้งานในสภาวะแวดล้อมที่แตกต่างกัน โดยวัสดุตัวถังที่นิยมใช้ ได้แก่

1. เหล็กหล่อดัด (Ductile Cast Iron)

ข้อดี: ทนทานต่อแรงกระแทกและการสึกหรอ มีความแข็งแรงและทนต่อการกัดกร่อน

การใช้งาน: เหมาะสำหรับระบบท่อที่ต้องการความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานหนัก

2. สแตนเลส (Stainless Steel)

ข้อดี: ทนต่อการกัดกร่อนและสนิม มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานในสภาวะแวดล้อมที่รุนแรง

การใช้งาน: เหมาะสำหรับระบบท่อที่สัมผัสกับสารเคมีหรือสภาวะแวดล้อมที่กัดกร่อน

3. เหล็กหล่อคาร์บอน (Cast Carbon Steel)

ข้อดี: มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานหนัก

การใช้งาน: เหมาะสำหรับระบบท่อที่ต้องการความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานทั่วไป

4. เหล็กคาร์บอน (Carbon Steel)

ข้อดี: มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานทั่วไป

การใช้งาน: เหมาะสำหรับระบบท่อที่ต้องการความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานทั่วไป

การเลือกใช้วัสดุตัวถังของข้อต่อขยาย Yoshitake

ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดของสื่อที่ไหลผ่าน อุณหภูมิ ความดัน สภาวะแวดล้อม และความต้องการด้านการใช้งาน

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกวัสดุตัวถัง

• ชนิดของสื่อที่ไหลผ่าน: วัสดุตัวถังต้องทนต่อการกัดกร่อนจากสื่อที่ไหลผ่าน
• อุณหภูมิและความดัน: วัสดุตัวถังต้องสามารถทนต่ออุณหภูมิและความดันที่เกิดขึ้นในระบบ
• สภาวะแวดล้อม: วัสดุตัวถังต้องทนต่อสภาวะแวดล้อม เช่น ความชื้น การกัดกร่อน
• ความต้องการด้านการใช้งาน: เลือกวัสดุที่เหมาะสมกับความต้องการด้านการใช้งาน เช่น ความแข็งแรง ความทนทาน ความปลอดภัย การเลือกใช้วัสดุตัวถังที่เหมาะสม จะช่วยให้ข้อต่อขยาย Yoshitake สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและทนทานต่อการใช้งานยาวนาน

การใช้งานของ Expansion Joint แต่ละประเภทมีจุดประสงค์และความเหมาะสมกับระบบท่อต่าง ๆ ดังนี้

Expansion Joint (Bellows Type)

• จุดประสงค์: ใช้เพื่อดูดซับการขยายตัวและหดตัวของท่อที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและแรงดัน โดยเฉพาะในระบบที่มีการไหลของของเหลวหรือก๊าซที่ร้อนหรือเย็น
• การใช้งาน: เหมาะกับระบบท่อในอุตสาหกรรมที่มีอุณหภูมิสูง เช่น โรงงานไฟฟ้า โรงงานเคมี หรือโรงกลั่นน้ำมัน

Expansion Joint (Sleeve Type)

• จุดประสงค์: ใช้สำหรับการชดเชยการขยายตัวของท่อในแนวตรง และช่วยให้ท่อมีความยืดหยุ่นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแรงดันหรืออุณหภูมิ
• การใช้งาน: เหมาะกับท่อที่ต้องการการชดเชยการขยายตัวในแนวตรง โดยทั่วไปใช้ในระบบท่อระบายความร้อนและระบบจ่ายน้ำ

Ball Joint

• จุดประสงค์: ช่วยให้ท่อสามารถเคลื่อนที่ได้หลายทิศทางโดยไม่เกิดความเสียหาย เช่น การหมุนหรือการเปลี่ยนทิศทางเล็กน้อยของท่อ
• การใช้งาน: เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบที่มีการสั่นสะเทือนหรือการเปลี่ยนแปลงทิศทางของท่อ เช่น ท่อส่งของเหลวในระบบท่ออุตสาหกรรมขนาดใหญ่

Flexible Joint

• จุดประสงค์: ออกแบบมาเพื่อดูดซับแรงสั่นสะเทือน แรงเค้น และแรงเคลื่อนไหวในระบบท่อ ช่วยให้ท่อมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
• การใช้งาน: เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบที่มีแรงสั่นสะเทือนสูงหรือระบบที่ต้องการการป้องกันการกระแทก เช่น ท่อในระบบเครื่องจักรกลหนัก ระบบ HVAC หรือท่อที่มีการเคลื่อนตัวตามการเคลื่อนไหวของพื้น

แต่ละประเภทของ Expansion Joint จะถูกเลือกใช้งานตามความต้องการในการดูดซับการเคลื่อนไหว การขยายตัว และการสั่นสะเทือนในระบบท่อแต่ละประเภทเพื่อป้องกันความเสียหายและเพิ่มอายุการใช้งานของระบบท่อ

ข้อต่อขยาย Yoshitake: การเชื่อมต่อปลายท่อ (End Connection)

ข้อต่อขยาย Yoshitake มักมีการเชื่อมต่อปลายท่อ (End Connection) แบบต่างๆ เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับท่อที่มีขนาดและมาตรฐานต่างกันได้ โดยหนึ่งในมาตรฐานการเชื่อมต่อที่นิยมใช้คือ JIS flangeJIS flange JIS flange เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อท่อที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่น โดยมีการกำหนดขนาดและรูปแบบของหน้าแปลน (flange) เพื่อให้สามารถ เชื่อมต่อกับท่อที่มีขนาดและมาตรฐานเดียวกันได้

• JIS flange_JIS 10K และ JIS flange_JIS 20K
• JIS flange_JIS 10K และ JIS flange_JIS 20K เป็นสองมาตรฐานย่อยของ JIS flange

ซึ่งกำหนดแรงดันที่ข้อต่อสามารถทนได้ โดย

• JIS flange_JIS 10K: สามารถทนแรงดันได้สูงกว่า JIS flange_JIS 20K
• JIS flange_JIS 20K: สามารถทนแรงดันได้ต่ำกว่า JIS flange_JIS 10K

การเลือกใช้ JIS flange_JIS 10K หรือ JIS flange_JIS 20K ขึ้นอยู่กับความดันและสภาวะการใช้งานของระบบท่อ โดยหากระบบท่อมีแรงดันสูง ควรเลือกใช้ JIS flange_JIS 10K และหากระบบท่อมีแรงดันต่ำ สามารถเลือกใช้ JIS flange_JIS 20K ได้การเชื่อมต่อข้อต่อขยาย Yoshitake กับ JIS flangeการเชื่อมต่อข้อต่อขยาย Yoshitake กับ JIS flange

สามารถทำได้โดยใช้วิธีการเชื่อมแบบต่างๆ เช่น

• การเชื่อมด้วยบูลต์ (Bolted Connection): ใช้บูลต์และน็อตในการเชื่อมต่อข้อต่อขยายกับท่อ
• การเชื่อมแบบเชื่อมต่อเร็ว (Quick Connect): เป็นวิธีการเชื่อมต่อที่สะดวกและรวดเร็ว
• การเชื่อมแบบเชื่อมต่อยาง (Rubber Gasket Connection): ใช้ยางรองเพื่อป้องกันการรั่วซึมระหว่างข้อต่อขยายกับท่อ

Expansion Joint มีกี่ประเภทที่คุณควรรู้ ?

ข้อต่อขยายตัว Expansion Joint มีกี่ประเภท ?

ทำไมต้องใช้ข้อต่อขยายตัว (Expansion Joint) ?