โอเวอร์โหลดรีเลย์ (Overload Relay) แบรนด์ ABB
ABB แบรนด์ชั้นนำเกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการใช้อย่างแพร่หลายอยู่ทั่วโลกเหมาะสำหรับการใช้งานในงานที่ต้องการความน่าเชื่่อถือสูงเนื่องจาก ABB ผ่านการรับรองมาตรฐานมากมายจากทั้ง IEC 60898 สำหรับใช้งานในอาคาร ที่พักอาศัย และมาตรฐาน IEC 60947-2 ซึ่งเหมาะ สำหรับติดตั้งใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป
โอเวอร์โหลดรีเลย์ (Overload Relay) แบรนด์ ABB เป็นอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้ากลสำหรับวงจรหลักที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย เมื่อใช้ร่วมกับคอนแทคเตอร์ โอเวอร์โหลดรีเลย์ (Overload Relay) แบรนด์ ABB จะช่วยป้องกันมอเตอร์จากโหลดเกินและเฟสขัดข้องได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ตั้งค่าโซลูชันการสตาร์ทมอเตอร์แบบกำหนดเองได้ตามความต้องการของการใช้งานได้อย่างหลากหลาย หากมีความต้องการใช้งาน โอเวอร์โหลดรีเลย์ (Overload Relay) ทางเราแนะนำให้คิดถึง โอเวอร์โหลดรีเลย์ (Overload Relay) แบรนด์ ABB เป็นที่แรก
การทำงานของโอเวอร์โหลดรีเลย์ (Overload Relay)
โอเวอร์โหลดรีเลย์ (Overload Relay) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันมอเตอร์ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อื่น ในระบบไฟฟ้าจากการทำงานเกินพิกัด (Overload) หรือการใช้กระแสไฟฟ้ามากเกินกว่าค่าที่ กำหนด โดยจะทำหน้าที่ตัดวงจรไฟฟ้าเมื่อเกิดสถานการณ์ผิดปกติ เพื่อป้องกันความเสียหาย และเพิ่มความปลอดภัยในระบบไฟฟ้า หากสงสัยในเรื่องข้อมูลสามารถ คลิกสอบถามแอดมิน
1. ตรวจจับกระแสไฟฟ้า
โอเวอร์โหลดรีเลย์จะติดตั้งในวงจรมอเตอร์เพื่อวัดกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านและเมื่อกระแสไฟฟ้าที่
ไหลผ่านเกินค่าพิกัด (Current Rating) ที่กำหนดไว้ อุปกรณ์ก็จะเริ่มทำงาน
2. การตรวจจับความร้อน
ในแบบ Thermal Overload Relay จะใช้แผ่นโลหะสองชั้น (Bimetallic Strip) ที่จะโค้งงอเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นจากการที่กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านเกินพิกัด ในแบบ Electronic
Overload Relay ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับกระแสไฟฟ้าและความร้อนที่เกิดขึ้น โดยการวิเคราะห์
แบบอิเล็กทรอนิกส์
3. การตัดการทำงานของมอเตอร์
เมื่อโอเวอร์โหลดรีเลย์ตรวจพบว่ากระแสไฟฟ้าสูงเกิน หรือว่ามีความร้อนสะสมจนมากจนถึงระดับ
ที่เป็นอันตราย รีเลย์จะส่งสัญญาณไปยังตัวตัดวงจร (Contactor) เพื่อให้หยุดการจ่ายไฟฟ้าให้
มอเตอร์ในทันที
4. ฟังก์ชัน Time Delay
โอเวอร์โหลดรีเลย์มักมีการตั้งค่าหน่วงเวลาไว้ (Time Delay) เพื่อให้กระแสไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นชั่ว
คราวขณะมอเตอร์เริ่มทำงาน (Inrush Current) จะไม่ทำให้รีเลย์ตัดวงจรโดยไม่จำเป็น
5. การรีเซ็ต (Reset)
หลังจากการตัดวงจร ผู้ใช้งานสามารถรีเซ็ตโอเวอร์โหลดรีเลย์ได้เลย ซึ่งจะมีอยู่สองระบบคือการ
รีเซ็ตแบบ Manual โดยการกดปุ่มรีเซ็ตด้วยตัวเอง และการรีเซ็ตแบบ Automatic ระบบจะกลับ
มาทำงานเองหลังจากสภาวะปกติทันทีโดยที่ไม่ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย
ประเภทของโอเวอร์โหลดรีเลย์ และการทำงาน
Thermal Overload Relay
ใช้หลักการขยายตัวของแผ่นโลหะสองชั้น (Bimetallic Strip) ซึ่งจะเหมาะสำหรับงานทั่วไปที่ต้อง
การความเรียบง่ายไม่ซับซ้อนในการติดตั้ง
Electronic Overload Relay
ใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ และไมโครโปรเซสเซอร์ในการตรวจจับกระแสไฟฟ้ามีความแม่นยำสูงในการ
ทำงานสามารถถปรับแต่งค่าได้ง่าย และเหมาะสำหรับระบบงานที่มีความซับซ้อน
Magnetic Overload Relay
ใช้หลักการทำงานของสนามแม่เหล็กในการตรวจจับกระแสไฟที่เกิน และตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่เหมาะกับการใช้งานที่มีโหลดเปลี่ยนแปลงบ่อย
หน้าที่ของโอเวอร์โหลดรีเลย์ (Overload Relay)
1. ป้องกันมอเตอร์จากการทำงานเกินพิกัด (Overload Protection)
ตรวจจับกระแสไฟฟ้าที่ไหลเข้าสู่มอเตอร์ หากกระแสเกินค่าที่กำหนดไว้ (Overload Current) โอเวอร์โหลดรีเลย์จะตัดการทำงานของมอเตอร์ทันทีลดความเสี่ยงของความร้อนสะสมในขด
ลวดมอเตอร์ ซึ่งอาจทำให้มอเตอร์เสียหายหรือไหม้ได้
2. ป้องกันการเกิดความร้อนเกิน (Overheating)
โอเวอร์โหลดรีเลย์สามารถตรวจจับอุณหภูมิที่เกิดจากการทำงานหนักของมอเตอร์ หากอุณหภูมิ
สูงเกินค่าที่ปลอดภัย ระบบจะหยุดการทำงานทันที
3. เพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบไฟฟ้า
ลดความเสี่ยงจากการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร (Short Circuit) ที่อาจเกิดจากการทำงานเกินพิกัด
ของมอเตอร์ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์อื่นในระบบ เช่น สายไฟ เบรกเกอร์ หรือวงจรไฟฟ้า
4. ลดความเสียหายต่อเครื่องจักร
หากเกิดปัญหา เช่น โรเตอร์มอเตอร์ติดขัด (Rotor Lock) หรือโหลดน้ำหนักเกินโอเวอร์โหลด
รีเลย์จะตรวจจับ และหยุดการทำงานของมอเตอร์ก่อนที่จะเกิดความเสียหายร้ายแรงต่อตัว
มอเตอร์
5. ยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์
ด้วยการป้องกันการทำงานเกินพิกัด โอเวอร์โหลดรีเลย์มีส่วนช่วยในการลดการสึกหรอ และการเสียหายของมอเตอร์ในขณะทำงานซึ่งจะช่วยรักษาสภาพของมอเตอร์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว รวมถึงการยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์
6. ตรวจสอบและควบคุมกระแสไฟฟ้าในระบบ
โอเวอร์โหลดรีเลย์จะมีการตรวจจับกระแสไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องถ้าหากว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงที่
ผิดปกติ เช่น กระแสไฟสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รีเลย์ก็จะตัดการทำงานของมอเตอร์
7. รองรับการตั้งค่ากระแสและเวลาได้
ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าความไวในการตรวจจับกระแส (Current Setting) และเวลาตอบสนอง (Time Delay) ของโอเวอร์โหลดรีเลย์ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของมอเตอร์ได้
8. แจ้งเตือนปัญหาที่เกิดขึ้น
บางรุ่นของโอเวอร์โหลดรีเลย์มาพร้อมไฟแสดงสถานะหรือสัญญาณเตือน (Alarm) เพื่อให้ผู้ใช้งานทราบถึงปัญหาและแก้ไขได้ในทันทีที่มีปัญหา
Overload Relay คืออะไร และทำงานยังไง?
อ่านบทความ ->
ราคาอัพเดตล่าสุด 01/02/68