ข้ามไปยังข้อมูลสินค้า
1 จาก 1

โซ่ส่งกำลัง Roller Chain RPM code 24AFTZ-2

โซ่ส่งกำลัง Roller Chain RPM code 24AFTZ-2

รูปสินค้าอาจไม่ตรงกับของจริง รบกวนสอบถามแอดมินเพื่อขอดูรูปเพิ่มเติม

RPM

กรุณาตรวจสอบสต็อกก่อนชำระเงิน
ราคาปกติ 11,462.26 ฿
ราคาปกติ ราคาโปรโมชัน 11,462.26 ฿
ลดราคา ขายหมดแล้ว

รายละเอียด โซ่ส่งกำลัง Roller Chain RPM code 24AFTZ-2

โซ่แบรนด์ RPM เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มอุตสาหกรรมและงานระบบส่งกำลัง โดยมีจุดเด่นที่ ความทนทานสูงต่อการสึกหรอ การยืดตัวต่ำ และรองรับแรงดึงได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการทำงานต่อเนื่องหรือมีแรงกระชาก เช่น ระบบลำเลียง เครื่องจักรหนัก และอุตสาหกรรมทั่วไป โซ่ RPM ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงและผ่านกระบวนการชุบแข็งที่ช่วยยืดอายุการใช้งาน ทั้งยังมีการควบคุมมาตรฐานการผลิตอย่างแม่นยำ ทำให้มั่นใจได้ในด้าน ความแม่นยำในการส่งกำลัง และลดการบำรุงรักษาในระยะยาว ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่มองหาโซ่คุณภาพในราคาสมเหตุสมผล

คุณสมบัติ

  • วัสดุคุณภาพสูง ผลิตจากเหล็กกล้าชุบแข็ง (Heat Treated Alloy Steel) เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ทนทานต่อการสึกหรอ และยืดอายุการใช้งาน
  • ความแม่นยำในการผลิต ทุกชิ้นส่วนถูกควบคุมขนาดอย่างละเอียด ทำให้โซ่มีการเคลื่อนที่ที่ราบรื่น ลดการสั่นสะเทือน
  • ทนแรงดึงสูง ออกแบบมาให้รองรับแรงดึงและแรงกระชากได้ดี เหมาะสำหรับงานโหลดหนักและระบบส่งกำลังต่อเนื่อง
  • ทนต่อสภาพแวดล้อม มีการชุบผิวเพื่อป้องกันสนิม เช่น ชุบนิเกิล (Nickel Plated) หรือ ซิงค์ (Zinc Plated) เหมาะกับงานกลางแจ้งหรือพื้นที่ชื้น
  • รองรับความเร็วรอบสูง ใช้งานได้ดีกับมอเตอร์หรือระบบที่ต้องการรอบสูงโดยไม่เกิดการคลอนหรือสะดุด
  • บำรุงรักษาง่าย มีอุปกรณ์เสริมครบ เช่น ข้อต่อ (Connecting Link) และข้อต่อแบบล็อก (Offset Link) ทำให้ถอดเปลี่ยนง่ายและรวดเร็ว

ข้อมูลจำเพาะ

  • ประเภทสินค้า: โซ่ส่งกำลังแบบลูกกลิ้ง (Roller Chain)
  • มาตรฐาน: ผลิตตามมาตรฐาน British Standard (BS) และ ISO 606
  • รุ่นที่มีให้เลือก: 06B, 08B, 10B, 12B, 16B (แบบแถวเดี่ยว, 2 แถว, 3 แถว)
  • วัสดุ: เหล็กกล้าคุณภาพสูง ผ่านการอบชุบแข็ง (Heat Treatment)
  • แรงดึงสูงสุด: ประมาณ 2,500 – 8,000 kgf (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
  • คุณสมบัติเด่น: แข็งแรง ทนแรงกระชาก ทนต่อการสึกหรอ ยืดตัวต่ำ ใช้งานได้ยาวนาน รองรับการทำงานต่อเนื่องในสภาพแวดล้อมหนัก
  • ความเร็วสูงสุดในการทำงาน: ประมาณ 15 เมตร/วินาที
  • อุณหภูมิที่รองรับ: -20°C ถึง +250°C (ขึ้นอยู่กับสารหล่อลื่น)
  • ขนาดบรรจุ: ยาว 10 ฟุต (≈ 3.05 เมตร) หรือสามารถตัดตามสั่งได้

ขนาด

belt

ข้อมูลทางเทคนิค

ISO/JANS/DIN
Chain No.
Pitch Roller
Diameter
Roller
Width
between
inner
plates
Pin
diameter
Pin Length Inner Plate depth Plate thickness Transverse pitch Tensile
Strength
Average tensile strength Weight
per meter
P d1
max
b1
min
d2
max
L
max
Lc
max
h2
max
T
max
Pt Q
min
Qo min q
mm mm mm mm mm mm mm mm mm kN/lbf kN kg/m
16AFT-1 25.40 15.88 15.75 7.92 32.70 35.00 24.00 3.25 - 70.56/15861 82.50 8.80
16AFT-2 25.40 15.88 15.75 7.92 62.70 65.80 24.00 3.25 29.29 132.30/29741 165.40 5.51
16AFTZ-3 25.40 15.88 15.75 7.92 91.70 95.10 24.00 3.25 29.29 232.50/52266 255.90 8.18
20AFT-2 31.75 19.05 18.90 9.53 76.40 80.50 30.10 4.00 35.76 220.00/49456 262.50 8.09
20AFT-3 31.75 19.05 18.90 9.53 112.20 116.30 30.10 4.00 35.76 330.00/74184 395.00 12.10
24AFTZ-2 38.10 22.23 25.22 11.10 95.80 99.70 36.20 4.80 45.44 339.00/76210 373.00 12.60
24AFTZ-3 38.10 22.23 25.22 11.10 141.40 145.20 36.20 4.80 45.44 520.00/116896 573.00 18.90
28AFT-2 44.45 25.40 25.22 12.70 103.30 107.90 42.20 5.60 48.87 445.50/100148 490.00 16.35

คำแนะนำการใช้งาน

  • ควร ตั้งแนวโซ่ให้ตรงกับล้อเฟือง (Sprocket) ทั้งด้านหน้าและหลัง เพื่อลดการสึกหรอข้างเดียว
  • รักษา ระยะตึงของโซ่ให้อยู่ในค่าที่เหมาะสม ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป ซึ่งจะส่งผลต่อการขับเคลื่อนและอายุการใช้งาน
  • ใช้ล้อเฟืองที่มีสภาพดี ไม่บิ่นหรือสึกหรอเกินไป เพราะจะทำให้โซ่เสียหายเร็ว
  • ควร หล่อลื่นโซ่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในจุดข้อต่อ เพื่อป้องกันการฝืด การสึกหรอ และการเกิดสนิม
  • เลือกใช้ น้ำมันหล่อลื่นชนิดที่เหมาะกับโซ่ เช่น น้ำมันสำหรับโซ่อุตสาหกรรม (ไม่แนะนำใช้จาระบีทั่วไป)
  • หลีกเลี่ยงการใช้โซ่แบบแห้งในพื้นที่ที่มีฝุ่นหรือความชื้นสูง
  • ตรวจสอบความยืดของโซ่เป็นระยะ โดยวัดความยาวช่วงโซ่ที่กำหนด หากเกินค่าที่แนะนำให้เปลี่ยนทันที
  • สังเกตเสียงขณะทำงาน หากมีเสียงดังผิดปกติ อาจเกิดจากโซ่หย่อนหรือล้อเฟืองสึก
  • ทำความสะอาดคราบน้ำมันฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่เกาะโซ่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการอุดตันในข้อต่อ
  • อย่าดึงหรือบิดโซ่ขณะติดตั้ง เพราะอาจทำให้โซ่เสียรูปและใช้งานไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ
  • ห้ามใช้โซ่ที่มีข้อเสียหาย เช่น ข้อฝืด โซ่ขาด หรือแผ่นเพลตบิดงอ
  • อย่าต่อหรือปรับโซ่โดยไม่ได้ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม เช่น ใช้ค้อนเคาะตรงๆ เพราะจะทำให้ข้อโซ่เสียหาย
  • แนะนำให้เปลี่ยน โซ่และล้อเฟืองพร้อมกัน หากชิ้นใดชำรุด เพื่อให้การส่งกำลังราบรื่นและไม่ทำให้โซ่ใหม่เสียหายเร็ว
  • ใช้ ข้อต่อโซ่ RPM แท้ หรือที่มีคุณภาพใกล้เคียงกันเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

เอกสารข้อมูล

โซ่ส่งกำลัง RPM คืออะไร? คุณสมบัติเด่นของโซ่ส่งกำลัง RPM ที่ตอบโจทย์งานหนัก

อ่านบทความ

เปรียบเทียบโซ่ส่งกำลัง RPM กับโซ่ส่งกำลังทั่วไปในตลาด

อ่านบทความ

ดูรายละเอียดทั้งหมด