โซ่ส่งกำลัง HKH เป็นหนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญของระบบเครื่องจักรที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายทอดกำลังจากต้นกำลังไปยังส่วนต่าง ๆ ของเครื่องจักรอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นระบบมอเตอร์ เครื่องจักรกลอุตสาหกรรม หรือระบบลำเลียงต่าง ๆ โซ่ส่งกำลัง HKH ได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพ ความทนทาน และความแม่นยำสูง เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความต่อเนื่องและความน่าเชื่อถือในการทำงานตลอดเวลา
โครงสร้างและสวนประกอบของโซ่ส่งกำลัง (Power Chain)
1. ข้อต่อด้านใน (Inner Link)
- แผ่นด้านใน (Inner plate): เป็นแผ่นโลหะคู่ที่ยึดติดกับบุช (Bush) และลูกกลิ้ง (Roller) เป็นข้อต่อที่อยู่ระหว่างข้อต่อด้านนอกสองตัว
- บุช (Bush): เป็นปลอกโลหะรูปทรงกระบอกที่สวมอยู่กับสลัก (Pin) และเป็นส่วนที่ลูกกลิ้งหมุนอยู่ด้านนอก
- ลูกกลิ้ง (Roller): เป็นปลอกทรงกระบอกที่สามารถหมุนรอบบุชได้ มีหน้าที่สัมผัสกับฟันเฟืองของล้อโซ่ (sprocket) เพื่อลดการสึกหรอและลดแรงเสียดทาน
2. ข้อต่อด้านนอก (Outer Link)
- แผ่นด้านนอก (Outer plate): เป็นแผ่นโลหะคู่ที่ยึดติดกับสลัก (Pin) เป็นข้อต่อที่อยู่ระหว่างข้อต่อด้านในสองตัว
- สลัก (Pin): หรือที่เรียกว่า หมุด (Pin) เป็นแท่งโลหะทรงกระบอกที่สอดผ่านรูของแผ่นด้านนอก, บุชของข้อต่อด้านใน, และแผ่นด้านนอกถัดไป เพื่อยึดส่วนประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกัน ทำให้โซ่สามารถงอและเคลื่อนที่ได้
3. ข้อต่อเชื่อม (Connecting Link)
เป็นข้อต่อพิเศษที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อปลายทั้งสองด้านของโซ่เข้าด้วยกันเมื่อทำการติดตั้ง
ประเภทโซ่ส่งกำลัง HKH ที่แบ่งตามลักษณะการใช้งาน
1. โซ่มาตรฐาน (Standard Roller Chain)
เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในเครื่องจักรกลอุตสาหกรรม เช่น สายพานลำเลียง เครื่องจักรผลิตสินค้า หรือระบบส่งกำลังระหว่างเพลามอเตอร์และเฟืองขับ
- มีขนาดตามมาตรฐาน ANSI / ISO
- โครงสร้างแข็งแรง รับแรงดึงได้ดี
- ทำงานเรียบ เสียงรบกวนต่ำ
- บำรุงรักษาง่าย เหมาะกับงานที่ทำงานต่อเนื่องระยะยาว
2. โซ่คู่ (Double Strand Roller Chain)
ออกแบบมาสำหรับงานที่ต้องการแรงส่งมากกว่าโซ่เดี่ยว เช่น เครื่องจักรอุตสาหกรรมหนัก ระบบขับเคลื่อนปั๊ม หรือระบบยกของขนาดใหญ่
- มีแถวลูกกลิ้งสองแถว เพิ่มความแข็งแรงและการรับแรงบิด
- ลดโอกาสการขาดหรือหลวมของโซ่
- ใช้ในเครื่องจักรที่ต้องการความมั่นคงสูง
3. โซ่พิเศษสำหรับงานหนัก (Heavy Duty Chain)
ใช้ในสภาพการทำงานที่ต้องรับภาระมาก มีแรงดึงสูง หรือทำงานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น เหมืองแร่ โรงหลอมเหล็ก และเครื่องจักรก่อสร้าง
- ผลิตจากเหล็กกล้าผสมพิเศษ ผ่านการอบชุบความร้อน
- ทนต่อแรงดึง แรงกระแทก และการสึกหรอ
- รองรับการใช้งานต่อเนื่องภายใต้แรงบิดสูง
4. โซ่แบบระยะยาว (Double Pitch Chain)
เหมาะสำหรับระบบส่งกำลังที่ต้องการความเร็วต่ำถึงปานกลาง และระยะระหว่างเพลายาว เช่น ระบบลำเลียงหรือเครื่องบรรจุภัณฑ์
- น้ำหนักเบากว่าโซ่มาตรฐาน
- ใช้พลังงานขับเคลื่อนน้อยลง
- อายุการใช้งานยาวนานในงานที่ไม่ต้องรับแรงมาก
5. โซ่สแตนเลส (Stainless Steel Chain)
เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการความสะอาด ปราศจากสนิม และต้านการกัดกร่อน เช่น อุตสาหกรรมอาหาร ยา หรือเครื่องดื่ม
- ผลิตจาก SUS304 / SUS316
- ทนต่อความชื้น สารเคมี และอุณหภูมิสูง
- ใช้งานได้ดีในพื้นที่ที่ต้องล้างทำความสะอาดบ่อย
6. โซ่แบบเคลือบผิวพิเศษ (Nickel / Zinc Plated Chain)
เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานต่อสภาพอากาศและการกัดกร่อน เช่น เครื่องจักรภายนอกอาคาร หรือสภาพแวดล้อมที่มีไอเกลือ
- เคลือบผิวด้วยนิกเกิลหรือซิงก์เพื่อป้องกันสนิม
- เพิ่มความทนทานต่อการสึกหรอ
- รูปลักษณ์เงางาม ดูแลรักษาง่าย
7. โซ่ส่งกำลังความเร็วสูง (High-Speed Chain)
ใช้ในระบบเครื่องจักรที่หมุนด้วยความเร็วรอบสูง เช่น เครื่องจักรผลิตบรรจุภัณฑ์ หรือเครื่องจักรสิ่งทอ
- ลูกกลิ้งและหมุดผ่านการขัดละเอียด ลดแรงเสียดทาน
- ทำงานได้ราบรื่น ไม่เกิดการสะดุด
- ลดการสั่นและเสียงในความเร็วสูง
8. โซ่สำหรับงานอุณหภูมิสูง (Heat-Resistant Chain)
ออกแบบสำหรับใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูง เช่น เตาอบ เตาหลอม หรือสายการผลิตโลหะ
- ใช้วัสดุพิเศษที่ทนความร้อนได้สูง
- ไม่เสียรูปง่ายเมื่อเจออุณหภูมิสูง
- รักษาความแข็งแรงและสมดุลของโซ่ได้ดี
โซ่ส่งกำลัง HKH ครอบคลุมทุกประเภทการใช้งาน ตั้งแต่งานทั่วไปไปจนถึงงานอุตสาหกรรมเฉพาะทาง ด้วยคุณภาพของวัสดุ การออกแบบที่แม่นยำ และกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับสากล จึงทำให้โซ่ HKH เป็นที่ยอมรับในด้านความทนทาน การส่งกำลังที่มีประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานที่ยาวนาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับทุกภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการระบบส่งกำลังที่มั่นคงและเชื่อถือได้.