โซ่ KANA KCM Stainless Steel Chains C2080H-OL

คุณสมบัติโซ่ KANA ความแข็งแรงและความทนทานที่คุณวางใจได้

โซ่ KANA คือส่วนประกอบสำคัญที่ขับเคลื่อนระบบและเครื่องจักรจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมขนาดเล็กไปจนถึงโรงงานขนาดใหญ่ การเลือกใช้โซ่ที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของระบบ KANA ในฐานะผู้ผลิตโซ่ส่งกำลังคุณภาพสูง ได้ให้ความสำคัญกับความเข้าใจในเรื่องความแข็งแรงและความสามารถในการรับแรงของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับโซ่ที่ตรงกับความต้องการใช้งานมากที่สุด บทความนี้จะเจาะลึกถึงสองแนวคิดหลักที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของโซ่ KANA นั่นคือ "ความทนแรงดึงเฉลี่ย (Average Tensile Strength)" และ "ความตึงสูงสุดที่อนุญาต (Maximum Allowable Tension)"

• ความทนแรงดึงเฉลี่ย (Average Tensile Strength): เกณฑ์การรับแรงสูงสุดของโซ่ คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าโซ่หนึ่งเส้นสามารถรับน้ำหนักได้มากแค่ไหนก่อนที่จะขาด? คำตอบอยู่ในแนวคิดของ "ความทนแรงดึงเฉลี่ย"
• ความทนแรงดึงเฉลี่ยคือ : ค่าการวัดน้ำหนักสูงสุดที่โซ่สามารถรับได้ก่อนที่จะเกิดการขาด ซึ่งได้มาจากการทดสอบโดยการดึงโซ่อย่างต่อเนื่อง (Continuous Pulling) จนกระทั่งโซ่ขาด และนำผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบหลายๆ ครั้งมาหาค่าเฉลี่ย
• วิธีการทดสอบ: ในการทดสอบความทนแรงดึงเฉลี่ย อุปกรณ์จับยึด (grasping device) จะถูกติดตั้งที่ปลายทั้งสองด้านของโซ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ใช้ข้อต่อปลายด้านใน (internal end links) หรือโซ่ที่มีมากกว่า 5 ข้อต่อ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเค้นจากการบิดงอและการโค้งงอ อุปกรณ์นี้ช่วยให้โซ่ถูกดึงอย่างค่อยเป็นค่อยไปจนกว่าจะขาด
• การทราบค่าความทนแรงดึงเฉลี่ยของโซ่ KANA ช่วยให้วิศวกรและนักออกแบบสามารถประเมินขีดจำกัดสูงสุดที่โซ่สามารถรับได้ภายใต้สภาวะการใช้งานจริง ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการเลือกโซ่ให้เหมาะสมกับการใช้งานที่ต้องการแรงดึงสูง โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายหรืออันตราย
• ความตึงสูงสุดที่อนุญาต (Maximum Allowable Tension): ความทนทานต่อการใช้งานซ้ำๆ นอกเหนือจากการรับแรงดึงสูงสุดเพียงครั้งเดียว โซ่ยังต้องสามารถทนทานต่อการรับแรงซ้ำๆ ได้ ซึ่งนำไปสู่แนวคิดของ "ความตึงสูงสุดที่อนุญาต"
• ความตึงสูงสุดที่อนุญาตคือ การคำนวณค่าขีดจำกัดสูงสุดของน้ำหนักที่สามารถนำมาใช้กับโซ่ซ้ำๆ ได้โดยไม่ทำให้โซ่เกิดการขาด พูดง่ายๆ คือ เป็นค่าที่ระบุว่าโซ่สามารถรับแรงกระทำซ้ำๆ ได้เท่าไหร่ โดยที่โซ่ไม่เสียหายหรือเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร
• การทดสอบความตึงสูงสุดที่อนุญาตจะแตกต่างจากการทดสอบความทนแรงดึงเฉลี่ย โดยจะเน้นไปที่การประยุกต์ใช้แรงกระทำซ้ำๆ (Apply load – Repeat) เพื่อจำลองสภาวะการใช้งานจริงที่โซ่ต้องรับภาระต่อเนื่องหรือเป็นจังหวะ
• การทำความเข้าใจความตึงสูงสุดที่อนุญาตเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานที่โซ่ต้องเผชิญกับโหลดที่ไม่คงที่ หรือต้องทำงานภายใต้แรงกระทำที่เป็นวัฏจักร (cyclic loading) เช่น ในระบบสายพานลำเลียง หรือเครื่องจักรที่ต้องมีการหยุดและเริ่มต้นบ่อยครั้ง โซ่ KANA ที่ถูกออกแบบมาให้มีค่าความตึงสูงสุดที่อนุญาตที่เหมาะสม จะช่วยยืดอายุการใช้งานของโซ่ ลดความถี่ในการบำรุงรักษา และเพิ่มความน่าเชื่อถือโดยรวมของระบบ

ข้อควรทราบ: การทดสอบทั้งสองประเภทนี้ใช้เครื่องจักรที่แตกต่างกัน เนื่องจากสภาพการทดสอบและความต้องการในการประเมินที่แตกต่างกันออกไป

เลือกโซ่ KANA

การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง "ความทนแรงดึงเฉลี่ย" และ "ความตึงสูงสุดที่อนุญาต" เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกโซ่ KANA ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ หากคุณต้องการโซ่ที่ทนทานต่อแรงดึงสูงในครั้งเดียว หรือโซ่ที่สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องภายใต้ภาระที่ซ้ำซ้อน KANA มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการ

สรุป

• ความทนแรงดึงเฉลี่ย (Average Tensile Strength): ขีดจำกัดสูงสุดที่โซ่ขาดเมื่อถูกดึงอย่างต่อเนื่อง
• ความตึงสูงสุดที่อนุญาต (Maximum Allowable Tension): น้ำหนักสูงสุดที่โซ่สามารถรับได้ซ้ำๆ โดยไม่ขาด
• ด้วยความมุ่งมั่นในการผลิตโซ่ที่มีคุณภาพและความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในคุณสมบัติทางกล KANA มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของตนจะมอบประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือที่คุณวางใจได้ ไม่ว่าจะเป็นงานหนักแค่ไหนก็ตาม

การใช้งานในสภาพแวดล้อมเฉพาะทางและการยืดอายุการใช้งาน โซ่ KANA

1. โซ่ KANA สำหรับการใช้งานที่ยากต่อการหล่อลื่น หรือต้องการหลีกเลี่ยงการหล่อลื่น ในบางอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอาหาร การแพทย์ หรือสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นมาก การหล่อลื่นโซ่อาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก หรือจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงเพื่อสุขอนามัยและความสะอาด KANA เข้าใจถึงความท้าทายนี้ และได้นำเสนอโซ่ทางเลือกที่โดดเด่นดังนี้:

1.1 โซ่เหล็ก KANA "NL Type": ไม่ต้องหล่อลื่นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับโซ่เหล็ก KANA ได้พัฒนา "NL Type" ที่ถูกออกแบบมาให้ ไม่ต้องมีการหล่อลื่นเพิ่มเติม (Does not require lubrication) นี่คือนวัตกรรมที่ช่วยลดภาระในการบำรุงรักษา และลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนในบางสภาพแวดล้อม

• บุชชิ่งและลูกกลิ้งพิเศษ: โซ่ NL Type มีบุชชิ่งและลูกกลิ้งที่หล่อลื่นด้วยน้ำมันในตัว (oil-impregnated bushing + roller) ซึ่งได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เกิดการประกบกับเฟืองได้อย่างราบรื่น (special meshing with the sprockets) ช่วยลดแรงเสียดทานและยืดอายุการใช้งานแม้ไม่มีการหล่อลื่นภายนอก
• ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า: เมื่อเปรียบเทียบกับโซ่เบอร์ 60 ทั่วไป โซ่ KANA NL Type มีค่าความตึงสูงสุดที่อนุญาต (Maximum Allowable Tension) สูงถึง 8.83kN (900kgf) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงและความทนทานที่เชื่อถือได้
• เหมาะสำหรับ: การใช้งานในเครื่องจักรที่การหล่อลื่นเป็นเรื่องยุ่งยาก หรือต้องการความสะอาดเป็นพิเศษโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพ

1.2 โซ่สเตนเลส KANA "Ultra-Chains (Oilless Type) NL-Stainless Steel Type": ปลอดภัยสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร

เมื่อต้องการโซ่ที่ปลอดการหล่อลื่นและทนทานต่อการกัดกร่อน Ultra-Chains (Oilless Type) NL-Stainless Steel Type คือคำตอบ ด้วยวัสดุสเตนเลสสตีล (SUS) และนวัตกรรมการออกแบบเฉพาะของ KANA

• บุชชิ่งหล่อลื่นในตัวจากสเตนเลสสตีล: ใช้บุชชิ่งสเตนเลสสตีลที่ชุบน้ำมันในตัว (oil-impregnated bushing made of stainless steel (SUS)) ทำให้สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องหล่อลื่นเพิ่มเติม
• สารหล่อลื่นที่ปลอดภัยสำหรับอาหาร (NSF-H1): โซ่รุ่นนี้ใช้สารหล่อลื่นที่จดทะเบียน NSF-H1 (*) ซึ่งหมายความว่าเป็นสารหล่อลื่นที่สามารถใช้ในพื้นที่ที่อาจมีการสัมผัสกับอาหารได้โดยไม่ตั้งใจ (incidentally contact food) ทำให้มั่นใจได้ในความปลอดภัยสำหรับเครื่องจักรในอุตสาหกรรมอาหาร
• ทนทานต่อการกัดกร่อน: มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนเทียบเท่ากับโซ่สเตนเลสสตีล SUS ทั่วไป แต่เหนือกว่าด้วยความสามารถในการใช้งานแบบไร้น้ำมัน
• เหมาะสำหรับ: โรงงานแปรรูปอาหาร, อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม, การผลิตยา, หรือสภาพแวดล้อมที่ต้องการสุขอนามัยสูงสุดและการต้านทานการกัดกร่อน

2. โซ่ KANA สำหรับการลดความถี่ในการเปลี่ยนโซ่ การเปลี่ยนโซ่บ่อยครั้งส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักในการผลิตและเพิ่มต้นทุนการบำรุงรักษา KANA ได้พัฒนาโซ่ที่ออกแบบมาเพื่อยืดอายุการใช้งาน ลดความถี่ในการเปลี่ยน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม:

2.1 โซ่สเตนเลส KANA "Heavy Duty Stainless Steel (AS) Chains": แข็งแกร่งกว่าเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน สำหรับงานที่ต้องการความทนทานเป็นพิเศษและต้องการลดการเปลี่ยนโซ่ KANA ขอแนะนำ Heavy Duty Stainless Steel (AS) Chains

• ความตึงสูงสุดที่อนุญาตสูงกว่า: โซ่ AS Type มีค่าความตึงสูงสุดที่อนุญาต (Maximum Allowable Tension) สูงกว่าโซ่สเตนเลสสตีล KCM ทั่วไปถึง 1.5 เท่า ซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถในการรับแรงที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด
• วัสดุแข็งแกร่งเป็นพิเศษ: ใช้สเตนเลสสตีลชุบแข็งแบบ Precipitation-Hardened (precipitation-hardened stainless steel) สำหรับหมุด (pins) และลูกกลิ้ง (rollers) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่รับแรงหลัก ส่งผลให้โซ่มีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ และสามารถรับแรงดึงสูงสุดได้ดีขึ้น
• เหมาะสำหรับ: การใช้งานหนัก, สภาพแวดล้อมที่ต้องการความทนทานสูง, และการลดระยะเวลาการหยุดเครื่องเพื่อบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนโซ่