มอเตอร์ คืออะไร และ ทำหน้าที่อะไร
มอเตอร์ (Motor) คืออะไร?
มอเตอร์ (Motor) เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกลประกอบด้วยขดลวดที่พันรอบแกนโลหะที่วางอยู่ระหว่างขั้วแม่เหล็กโดยเมื่อผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไปยังขดลวดที่อยู่ระหว่างขั้วแม่เหล็กจะทำให้ขดลวดหมุนไปรอบแกนและเมื่อสลับขั้วไฟฟ้าการหมุนของขดลวดจะหมุนกลับทิศทางเดิมมอเตอร์เป็นหัวใจสำคัญของระบบเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยมีบทบาทในการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกลเพื่อขับเคลื่อนระบบต่างๆทั้งในภาคอุตสาหกรรมและชีวิตประจำวันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้มอเตอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานที่หลากหลายมากขึ้น
มอเตอร์ (Motor) ทำหน้าที่อะไร
ในโลกของเครื่องจักรกลและเทคโนโลยีมอเตอร์ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการทำงานของระบบต่างๆตั้งแต่อุปกรณ์ในบ้านไปจนถึงเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม การขนส่ง การเกษตร การแพทย์ หน้าที่หลักของมอเตอร์คือการสร้างการเคลื่อนที่แบบหมุนซึ่งการเคลื่อนที่แบบหมุนนี้สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบตั้งแต่การหมุนใบพัดการขับเคลื่อนสายพาน ปั๊มน้ำ การบดอัด ไปจนถึงการขับเคลื่อนล้อรถยนต์มอเตอร์จึงเป็นเทคโนโลยีที่ขาดไม่ได้ในโลกยุคปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หรืออุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ
1.เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล : มอเตอร์ใช้กระแสไฟฟ้าในการสร้างแรงหมุนซึ่งสามารถนำไปขับเคลื่อนอุปกรณ์หรือเครื่องจักรต่างๆได้
2.ขับเคลื่อนเครื่องจักรและอุปกรณ์ : มอเตอร์ใช้ในการขับเคลื่อนล้อสายพาน ปั๊มคอมเพรสเซอร์และระบบลำเลียงวัสดุในโรงงาน
3.ควบคุมการทำงานของระบบอัตโนมัติ : ในโรงงานอุตสาหกรรมมอเตอร์ใช้ร่วมกับเซนเซอร์และระบบควบคุมอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้แรงงานคน
4.ช่วยให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงาน : พัดลม เครื่องดูดฝุ่น ตู้เย็นและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆล้วนมีมอเตอร์เป็นส่วนประกอบสำคัญ
ในการเลือกมอเตอร์อุตสาหกรรมควรพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ดังนี้- กำลังไฟฟ้า : เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกมอเตอร์ ควรเลือกมอเตอร์ที่มีกำลังไฟฟ้าเหมาะสมกับงานที่ต้องการใช้งาน
- แรงดันไฟฟ้า : และความถี่ของแหล่งจ่ายไฟฟ้าควรเลือกมอเตอร์ที่มีแรงดันไฟฟ้าและความถี่ที่ตรงกับแหล่งจ่ายไฟฟ้า
- ความเร็วรอบ : ควรเลือกมอเตอร์ที่มีความเร็วรอบที่เหมาะสมกับงานที่ต้องการใช้งาน
- แรงบิด : ควรเลือกมอเตอร์ที่มีแรงบิดที่เพียงพอต่อการขับเคลื่อนเครื่องจักร
- ประเภทของงาน : ควรเลือกมอเตอร์ที่เหมาะสมกับประเภทของงานที่ต้องการใช้งาน
- สภาพแวดล้อมในการทำงาน : ควรเลือกมอเตอร์ที่สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมในการทำงานได้ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และฝุ่นละออง
มอเตอร์ (Motor) มีกี่ชนิด
การเลือกประเภทของมอเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุดมอเตอร์สามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามเกณฑ์ต่างๆ กัน เช่น ตามชนิดของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ตามลักษณะการใช้งาน หรือตามโครงสร้างมอเตอร์แต่ละประเภทก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไปซึ่งการเลือกใช้มอเตอร์ที่เหมาะสมกับงานนั้นๆจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นโดยประเภทของมอเตอร์จะแบ่งออกได้ 2 ประเภท
1. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (DC Motor)
เป็นมอเตอร์ที่ต้องใช้ไฟฟ้ากระแสตรงในการทำงานผ่านเข้าไปในขดลวดเพื่อทำให้เกิดการดูดและผลักกันของแม่เหล็กถาวรกับแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากขดลวดมอเตอร์จึงหมุนได้มีข้อดีคือสามารถควบคุมความเร็วและแรงบิดได้อย่างแม่นยำเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น เครื่องจักร CNC หรือหุ่นยนต์แต่มีข้อเสียคือโครงสร้างซับซ้อนกว่ามอเตอร์ AC และต้องการการบำรุงรักษามากกว่า
2. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Motor)
เป็นมอเตอร์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้ากระแสสลับในการทำงาน เป็นมอเตอร์ที่นิยมใช้กันมากที่สุดในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากมีโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อน ทนทาน และมีประสิทธิภาพสูง สามารถแบ่งย่อยได้อีกหลายชนิด เช่น มอเตอร์เหนี่ยวนำ (Induction Motor) เป็นมอเตอร์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดในอุตสาหกรรมแบ่งเป็น มอเตอร์เหนี่ยวนำสามเฟส และ มอเตอร์เหนี่ยวนำเฟสเดียว และมอเตอร์ซิงโครนัส (Synchronous Motor) หมุนด้วยความเร็วคงที่ตามความถี่ของไฟฟ้ากระแสสลับ
พันขดลวดมอเตอร์ ราคาถูกที่สุด
การพันขดลวดมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้มอเตอร์สามารถสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกลได้ โดยทั่วไป ขดลวดในมอเตอร์ไฟฟ้าจะอยู่ในสเตเตอร์ (Stator) หรือ โรเตอร์ (Rotor) ขึ้นอยู่กับประเภทของมอเตอร์ซึ่งข้อดีของการพันขดลวดมอเตอร์คือยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์ลดต้นทุนแทนการซื้อใหม่ปรับแต่งค่าทางไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งานลดการสูญเสียพลังงานจากขดลวดเก่าที่เสื่อมสภาพเป็นต้น คลิกสอบถามราคา
พันขดลวดมอเตอร์ ราคาเริ่มต้น 990 บาท
- ตัวอย่างงานพันขดลวดของทีมช่างนอร์ทพาวเวอร์






ช่องทางการติดต่อสอบถามสินค้าและสั่งชื้อสินค้า
*เพื่อความรวดเร็ว ทางเราแนะนำให้แอดไลน์ เนื่องจากจะมีแอดมินคอยสแตนบายตอบตลอด ตั้งแต่เวลา 8:00 AM - 5:00 PM*
ติดต่อ 053-244-922
บริการอื่นๆเพิ่มเติม