Locking Assemblies คืออะไร ?

Locking Assemblies

Locking Assemblies

Locking Assemblies หรือที่มักเรียกว่า ชุดล็อกเพลา (Shaft-Hub Connection System) เป็นองค์ประกอบทางกลที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อระหว่างเพลากับชิ้นส่วนอื่น เช่น เฟือง มู่เล่ย์ จานเบรก หรือใบพัด โดยไม่ต้องใช้ลิ่ม (keyway) สลักเกลียว หรือการเชื่อมถาวรแบบดั้งเดิม อุปกรณ์ชนิดนี้ทำงานโดยอาศัยหลักการของแรงเสียดทานที่เกิดจากการขันสลักเกลียวรัดตัวเรือนให้เกิดแรงกดรอบเส้นรอบวงเพลาและชิ้นส่วนที่ต้องการเชื่อมต่อ เมื่อมีแรงกดที่เหมาะสม แรงบิดและแรงตามแนวแกนที่ส่งผ่านระหว่างเพลากับชิ้นส่วนก็จะถูกถ่ายโอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนประกอบของ Locking Assemblies

ส่วนประกอบของ Locking Assemblies

1. Sleeve (ปลอก)

  • ส่วนที่เป็นวงแหวนด้านใน ทำหน้าที่สวมเข้ากับเพลา (shaft)
  • เมื่อขันสกรูแล้ว Sleeve จะขยายหรือหดตัวเพื่อกดแน่นกับเพลาและฮับ

2. Screws (สกรู)

  • ใช้ขันเพื่อสร้างแรงกด (clamping force)
  • เมื่อขันสกรู แรงจะถูกส่งผ่านไปยัง Pressure Ring ทำให้เกิดแรงเสียดทานระหว่างเพลากับฮับ

3. Shaft (เพลา)

  • ชิ้นงานที่ต้องการยึดกับฮับ
  • จะถูกกดแน่นเข้ากับ Sleeve และ Hub ด้วยแรงจาก Locking Assembly

4. Hub (ฮับ)

  • ส่วนที่ต่อเชื่อมกับอุปกรณ์ เช่น มู่เล่ย์, เฟือง, จานเพลา ฯลฯ
  • Locking Assembly จะยึด Hub และ Shaft เข้าด้วยกันโดยไม่ต้องใช้ keyway

5. Pressure Ring (แหวนกด / แหวนแรงดัน)

  • วงแหวนที่ทำหน้าที่กระจายแรงจากสกรูเข้าสู่ Sleeve
  • ช่วยให้แรงกดแน่นสม่ำเสมอรอบวง

ข้อแนะนำ

  • "Contact surfaces between hub / sleeve plus shaft / pressure rings must be clean and slightly oiled"
  • พื้นผิวสัมผัสระหว่างฮับ / ปลอก / เพลา / แหวนแรงดัน ต้องสะอาดและมีน้ำมันหล่อลื่นเล็กน้อย เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกที่อาจทำให้แรงเสียดทานไม่สม่ำเสมอ และช่วยให้การถอดประกอบง่ายขึ้น

ชนิดของ Locking Assemblies

1. แบบมาตรฐาน (Standard Locking Assemblies)

เป็นชนิดที่พบมากที่สุด ใช้โครงสร้างแบบวงแหวนซ้อนหลายชั้น เมื่อขันสกรูแล้ววงแหวนจะสร้างแรงกดแน่นรอบเพลาและฮับ เหมาะสำหรับการถ่ายทอดแรงบิดขนาดกลางถึงสูง ติดตั้งง่ายและถอดได้สะดวก เหมาะกับเครื่องจักรทั่วไป มอเตอร์ไฟฟ้า พัดลม และอุปกรณ์ส่งกำลังอื่น ๆ

แบบมาตรฐาน (Standard Locking Assemblies)

2. แบบชิ้นเดียว (Single-Piece Design)

ออกแบบให้เป็นชิ้นเดียวพร้อมผ่าร่องหรือทำมุมเอียง เมื่อขันสกรูจะบีบตัวเข้ากับเพลาและฮับ ข้อดีคือมีขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัด แต่แรงบิดที่ถ่ายทอดได้จะต่ำกว่าแบบหลายชิ้น

แบบชิ้นเดียว (Single-Piece Design)

3. แบบสองชิ้นหรือสามชิ้น (Two/Three-Piece Design)

มีการแยกชิ้นส่วนออกเป็นสองหรือสามวงแหวน ช่วยให้การกระจายแรงกดทั่วถึงและสมดุลมากขึ้น สามารถถ่ายทอดแรงบิดสูงกว่าแบบชิ้นเดียว อีกทั้งยังช่วยลดการเคลื่อนตัวตามแนวแกนของเพลา เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความมั่นคงสูง เช่น ระบบส่งกำลังในอุตสาหกรรมหนัก

แบบสองชิ้นหรือสามชิ้น (Two/Three-Piece Design)

4. แบบบางพิเศษ (Slim or Compact Type)

ถูกออกแบบมาให้มีขนาดบางหรือกะทัดรัดเป็นพิเศษ ใช้ในกรณีที่พื้นที่รอบเพลาและฮับมีจำกัด เช่น ในระบบอัตโนมัติที่มีโครงสร้างซับซ้อน หรือเครื่องจักรที่ต้องการลดน้ำหนักของอุปกรณ์ำ

แบบบางพิเศษ (Slim or Compact Type)

5. แบบรับแรงดัด (Locking Assemblies for Bending Loads)

เป็นชนิดที่ออกแบบเฉพาะเพื่อรับแรงดัดหรือแรงที่เกิดจากโหลดไม่สมดุล เช่น โรลเลอร์ เครื่องจักรผลิตกระดาษ หรืออุปกรณ์ที่เพลาต้องรับแรงกดด้านข้างเป็นเวลานาน การกระจายแรงของ Locking Assemblies ชนิดนี้ถูกปรับให้รองรับการใช้งานที่มีความซับซ้อนของแรงได้ดีกว่าแบบทั่วไป

แบบรับแรงดัด (Locking Assemblies for Bending Loads)

6. แบบสเตนเลส (Stainless Steel Locking Assemblies)

ใช้วัสดุสเตนเลสที่ทนต่อการกัดกร่อน เหมาะสำหรับงานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือสัมผัสกับสารเคมี เช่น อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ยา และอุปกรณ์ทางทะเล

แบบสเตนเลส (Stainless Steel Locking Assemblies)

7. แบบรับแรงบิดสูงพิเศษ (Heavy-Duty / High Torque Locking Assemblies)

ออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่และสามารถถ่ายทอดแรงบิดในระดับสูงมาก เหมาะกับเครื่องจักรในอุตสาหกรรมหนัก เช่น เหมืองแร่ โรงงานเหล็ก โรงไฟฟ้า และอุปกรณ์ยกขนาดใหญ่

แบบรับแรงบิดสูงพิเศษ (Heavy-Duty / High Torque Locking Assemblies)

8. แบบเฉพาะงาน (Customized Locking Assemblies)

บางกรณีผู้ผลิตออกแบบ Locking Assemblies ให้ตรงกับความต้องการพิเศษ เช่น ขนาดเพลาใหญ่กว่าปกติ การติดตั้งในตำแหน่งที่เข้าถึงยาก หรือการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำสูง

แบบเฉพาะงาน (Customized Locking Assemblies)

Locking Assemblies มีหลายชนิดตั้งแต่แบบมาตรฐานไปจนถึงแบบเฉพาะงาน แต่ละชนิดถูกออกแบบให้เหมาะสมกับเงื่อนไขการใช้งานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นขนาดพื้นที่ติดตั้ง ระดับแรงบิดที่ต้องการถ่ายทอด ความทนทานต่อแรงดัด หรือความทนต่อการกัดกร่อน จุดเด่นของ Locking Assemblies คือการลดความยุ่งยากในการผลิตชิ้นส่วน (ไม่ต้องทำร่องลิ่ม) เพิ่มความแข็งแรง ลดการสึกหรอ และยังช่วยให้การประกอบและถอดทำได้สะดวกกว่าเดิมอย่างมาก

จุดเด่น และข้อดีของ Locking Assemblies

จุดเด่นของ Locking Assemblies อยู่ที่การถอดประกอบที่ง่ายและไม่ทำให้เพลาเสียหายเหมือนกับการทำร่องลิ่มหรืองานเชื่อม เนื่องจากไม่ต้องตัดเฉือนผิวเพลา การประกอบเพียงแค่ใส่ชุดล็อกเข้าไประหว่างเพลากับดุม (Hub) แล้วขันให้แน่นตามแรงบิดที่กำหนด ก็จะได้การเชื่อมต่อที่มั่นคงและแน่นหนา อีกทั้งยังสามารถถอดออกเพื่อทำการซ่อมหรือปรับเปลี่ยนได้โดยไม่ทิ้งร่องรอยเสียหายกับชิ้นส่วน นอกจากนี้ Locking Assemblies ยังเหมาะสำหรับงานที่ต้องการถ่ายแรงบิดสูง หรืองานที่มีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของแรงบ่อย ๆ เช่น เครื่องจักรกลการผลิต ปั๊ม คอมเพรสเซอร์ ระบบขับเคลื่อนในโรงงานอุตสาหกรรม ไปจนถึงอุปกรณ์ด้านพลังงานลมและพลังงานน้ำ เนื่องจากสามารถรับแรงได้ทั้งในแนวรัศมีและแนวแกนพร้อมกัน

ข้อดีที่สำคัญของ Locking Assemblies

  • ไม่ต้องทำร่องลิ่ม ลดความเสียหายกับเพลา
  • การประกอบและถอดทำได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว
  • สามารถถ่ายแรงบิดสูงได้อย่างมั่นคง
  • กระจายแรงเสียดทานสม่ำเสมอรอบเพลา
  • รองรับแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือนได้ดี
  • ปรับเปลี่ยนหรือตั้งตำแหน่งได้อย่างยืดหยุ่น


ขาย Locking Assemblies ราคาถูก

ข้อดีของการซื้อ Locking Assemblies กับบริษัทนอร์ทพาวเวอร์

ลูกค้าจะได้สินค้าของแท้ ตรงตามโมลเดลที่ต้องการคุ้มค่าในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและ ลดต้นทุนการดำเนินงานในโรงงานของลูกค้า หากสนใจในการสั่งชื้อ Locking Assemblies สามารถเช็คราคาล่าสุดที่ตรงใจและตรงต่อการนำไปใช้งานคุ้มค่ากับงบประมาณโดยการแอดไลน์ได้ที่นี่เลย @northpower หรือ คลิกสอบถามแอดมิน ที่คอยบริการให้ข้อมูลสินค้าช่วยเทียบสเปคสินค้าตั้งแต่ 8:00 - 17:00 แอดได้เลย อย่ารอช้า