ปั๊มน้ำ คืออะไร มีกี่แบบ และการติดตั้งพร้อมวิธีดูแลรักษา

Optimum belt

ปั๊มน้ำ คืออะไร ?

ปั๊มน้ำ (water pump) เป็นอุปกรณ์ ที่ช่วยจัดส่งน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคในด้านการเกษตร การคมนาคม อุตสาหกรรม ตลอดจนการบำบัดน้ำเสีย เพื่อรักษาสภาวะแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันปั๊มน้ำมีหลากหลายประเภทขึ้นอยู่กับการเลือกใช้งาน แต่ที่นิยมใช้กันภายในบ้านจะเป็นชนิดที่ใช้ไฟฟ้า ซึ่งมีความสะดวกและง่ายต่อการใช้งาน หลักการทำงานของปั๊มน้ำโดยทั่วไปนั้นจะใช้มอเตอร์ทำหน้าที่หมุนให้ตัวปั๊มเคลื่อนที่เพื่อผลักน้ำจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งไปโดยแรงดัน และปริมาณน้ำ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มแรงดันน้ำให้มีความเสถียรและแรงสม่ำเสมอในระหว่างการใช้น้ำ และหากมีการใช้น้ำในหลากจุด ยังดึงน้ำจากถังพักน้ำออกมาใช้งานได้อีกด้วย ปั๊มน้ำสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

ปั๊มน้ำ มีกี่ประเภท?

ปั๊มน้ำอัตโนมัติ หรือ ปั๊มน้ำแรงดันสูง

ปั๊มน้ำอัตโนมัติ หรือที่รู้จักกัน คือ ปั๊มถังกลมเป็นปั๊มน้ำชนิดนี้มีการนำมาประยุกต์ใช้งานในเริ่มแรก หน้าที่ของปั๊มน้ำชนิดนี้ คือ จะดูดน้ำเข้ามาพักเก็บเอาไว้ที่ถังเหล็ก เรียกว่า ถังความดัน นิยมใช้กันโดยทั่วไปตามบ้านเรือน ที่พักอาศัย ซึ่งจะทำงานโดยการเปิด-ปิดอัตโนมัติตามการเปิดใช้งานของอุปกรณ์ใช้น้ำ นอกจากนี้ยังมีกำลังส่งน้ำไปยังจุดต่างๆ ภายในบ้านได้ดี

ปั๊มน้ำแรงดันคงที่

ปั๊มน้ำแรงดันคงที่ หรือที่รู้จักกัน คือ ปั๊มน้ำถังเหลี่ยม ปั๊มชนิดนี้มีหลักการทำงานคล้ายกับปั๊มน้ำอัตโนมัติแต่จะต่างกันที่ จะใช้ความดันที่เกิดมาจากการถังโลหะ ขนาดเล็กโดยภายในจะบรรจุก๊าซไนโตรเจน ซึ่งมีคุณสมบัติ ทนต่อความร้อนได้สูง และแรงดันจะเสถียรกว่าอากาศธรรมดา ทำให้น้ำนั้นสม่ำเสมอทุกจุดในการใช้งาน เช่น ใช้กับเครื่องทำน้ำอุ่น ทำให้น้ำร้อนอย่างสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับอพาร์ทเม้นท์ อาคาร ตึกแถว ทาวน์เฮ้าส์ หรือบ้านเดี่ยว

ปั๊มหอยโข่ง

ปั๊มน้ำหอยโข่ง เป็นปั๊มน้ำชนิดที่อาศัย “แรงหนีศูนย์กลาง” ในการทำงาน เมื่อแรงหนีศูนย์กลางกระทำต่อปั๊มน้ำ ความดันบริเวณศูนย์กลางปั๊มจะต่ำลงจนเกือบเป็นสุญญากาศ ทำให้ความดันของบรรยากาศภายนอกนั้นจะดันน้ำจากบ่อพักน้ำเข้าไปยังบริเวณศูนย์กลางของปั๊มน้ำทำให้ใบพัดหมุน เนื่องจากเกิดสุญญากาศและแรงหนีศูนย์กลาง ขึ้นพร้อมกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำเคลื่อนที่ผ่านปั๊มน้ำจากที่ต่ำขึ้นสู่ที่สูง เหมาะสำหรับการใช้งานต่อเนื่องยาวนาน เช่น งานเกษตร งานสูบน้ำขึ้นอาคารสูง งานสูบจากแทงค์หรือบ่อ งานหัวจ่ายน้ำ sprinkle เป็นต้น นอกจากนี้ยัง สามารถสูบน้ำได้ในปริมาณที่มาก หรือแรงส่งสูง เพราะปั๊มหอยโข่งมีแรงม้าสูง

ปั๊มจุ่ม ปั๊มแช่ หรือปั๊มไดโว่

ปั๊มจุ่ม ปั๊มแช่ หรือปั๊มไดโว่นั้น ใช้กับการสูบน้ำออกบ่อ หรือระบายน้ำเสียออกจากคลอง มีกำลังส่งต่ำแต่สามารถสูบน้ำได้ในปริมาณมาก ปั๊มน้ำชนิดนี้มีอยู่ 2 ชนิด คือ มีลูกลอย เมื่อจุ่มน้ำสูงลูกลอยจะลอยขึ้น ทำให้เครื่องจะทำงาน เมื่อดูดน้ำจนหมดลูกลอยก็จะจมลงปั๊มก็ตัดอัตโนมัติ และแบบไม่มีลูกลอย ต้องเปิด-ปิดสวิทช์เอง นอกจากนี้การดึงน้ำความแรงของน้ำขึ้นอยู่กับกำลังวัตต์



ขั้นตอนและหลักการติดตั้งปั๊มน้ำที่ถูกต้อง

1. เลือกตำแหน่งติดตั้ง

  • ควรติดตั้งในที่ แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่โดนแดดหรือฝนโดยตรง
  • พื้นที่ควรแข็งแรง รับน้ำหนักปั๊มได้ และไม่เอียง
  • ถ้าเป็น ปั๊มซับเมอร์ส ต้องอยู่ในระดับน้ำที่เหมาะสม ไม่ให้มอเตอร์จมน้ำเกินกำหนด

2. การวางฐานปั๊ม

  • ใช้ ฐานรากคอนกรีตหรือเหล็ก ที่มั่นคง ลดแรงสั่นสะเทือน
  • ยึดด้วย น็อตหรือสลักเกลียว (Foundation Bolt) ให้แน่น

3. การต่อท่อดูดและท่อส่ง

  • ท่อดูดควร สั้น ตรง และมีเส้นผ่านศูนย์กลางเท่าหรือใหญ่กว่าหน้าเข้า ของปั๊ม
  • ติดตั้ง Foot Valve (เช็ควาล์วพร้อมตะแกรงกรอง) ที่ปลายท่อดูดเพื่อกันน้ำไหลย้อนกลับ
  • หลีกเลี่ยงการโค้งงอหรือหักมุมของท่อดูดเพราะจะทำให้แรงดูดลดลง
  • ท่อส่งควรติดตั้ง เช็ควาล์ว + วาล์วเปิด-ปิด (Gate Valve/Ball Valve) เพื่อควบคุมแรงดันและป้องกันน้ำย้อน

4. การต่อไฟฟ้า

  • ใช้สายไฟที่เหมาะสมกับขนาดปั๊มและแรงดันไฟฟ้า
  • ควรมี เบรกเกอร์ (Circuit Breaker) หรือฟิวส์ป้องกันไฟเกิน
  • ต่อสายดิน (Ground) ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย

5. การไล่อากาศ (Priming)

  • ก่อนเปิดใช้งานครั้งแรก ต้องเติมน้ำเข้าตัวปั๊มให้เต็ม เพื่อป้องกันการทำงานแบบ Dry Run ที่ทำให้ซีลไหม้

6. การทดสอบการทำงาน

  • เปิดปั๊มและเช็คการไหลของน้ำว่าเป็นไปตามปกติ
  • ตรวจสอบเสียง การสั่น และอุณหภูมิของมอเตอร์

⚠️ ข้อควรระวัง

  • ห้ามให้ปั๊มทำงานโดยไม่มีน้ำ (Dry Run)
  • ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าให้ตรงกับที่ปั๊มกำหนด
  • ไม่ควรติดตั้งท่อดูดยาวเกินไปหรือสูงเกินไป (อาจทำให้ปั๊มดูดน้ำไม่ขึ้น)
  • ควรทำความสะอาดตะแกรงกรองเป็นประจำ

วิธีดูแลรักษาและยืดอายุการใช้งานปั๊มน้ำ

1. การใช้งานที่ถูกต้อง

  • ห้ามให้ปั๊มทำงานแบบ Dry Run (ไม่มีน้ำในตัวปั๊ม) เพราะจะทำให้ซีลและมอเตอร์เสียหาย
  • ใช้งานตาม แรงดันและอัตราการไหลที่กำหนด ไม่ควรเกินสเปกของปั๊ม
  • หลีกเลี่ยงการเปิด–ปิดปั๊มบ่อยเกินไป

2. การตรวจเช็คเป็นประจำ

  • ฟังเสียงและตรวจสอบแรงสั่นของปั๊ม หากผิดปกติอาจมีปัญหาที่ลูกปืนหรือใบพัด
  • ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าและระบบไฟไม่ให้เกิดไฟตก ไฟเกิน
  • ตรวจเช็คตะแกรงกรองและท่อดูด–ท่อส่ง ไม่ให้มีสิ่งอุดตัน

3. การบำรุงรักษา

  • ทำความสะอาด ตะแกรงกรอง (Foot Valve/Strainer) อย่างสม่ำเสมอ
  • ตรวจสอบและเปลี่ยน ซีลปั๊ม (Mechanical Seal) เมื่อเริ่มรั่วซึม
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นหรือตรวจสอบจาระบีที่ลูกปืน (ถ้ามีระบบหล่อลื่น)
  • ตรวจสอบการรั่วซึมของข้อต่อท่อและวาล์ว

4. การป้องกันสิ่งแวดล้อม

  • หากติดตั้งกลางแจ้ง ควรมี กันสาดหรือหลังคา ป้องกันแดดและฝน
  • ไม่ควรให้ปั๊มอยู่ในที่อับชื้นหรือมีน้ำท่วมขัง

5. การพักและหยุดใช้งาน

  • หากไม่ใช้งานนาน ควร ถ่ายน้ำออกจากตัวปั๊ม เพื่อป้องกันการกัดกร่อนหรือเกิดตะกรัน
  • ตรวจสอบปั๊มก่อนใช้งานใหม่ทุกครั้ง

หากสนใจในการสั่งชื้อ / ซ่อม ปั๊มน้ำ (Water Pump) สามารถเช็คราคาล่าสุดที่ตรงใจและตรงต่อการนำไปใช้งานคุ้มค่ากับงบประมาณโดยการแอดไลน์ได้ที่นี่เลย @northpower หรือ คลิกสอบถามแอดมิน ที่คอยบริการให้ข้อมูลสินค้าช่วยเทียบสเปคสินค้าตั้งแต่ 8:00 - 17:00 แอดได้เลย อย่ารอช้า