เลือกใช้งานวาล์วนิรภัย (Safety valve) ให้เหมาะสมควรเลือกอย่างไร ?
การเลือกใช้งาน Safety valve ให้เหมาะสมควรเลือกอย่างไร ?
ใการเลือกและการใช้งาน Safety valve ที่ถูกต้องนั้น ควรพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน ตัวอย่าง เช่น ประเภทของท่อส่ง ประเภทของที่ไหลผ่านท่อ และตำแหน่งที่เลือกติดตั้ง Safety valve
เนื่องจาก วาล์วนิรภัย Safety valve มีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งาน จึงไม่ใช่เรื่องยากในการเลือกหารุ่นของ Safety valve ที่มีความเหมาะสมกับการใช้งานของตนเองมากที่สุด เมื่อเลือกประเภทที่เหมาะสมแล้ว จำเป็นต้องกำหนดแรงดันให้ถูกต้องรวมถึงเลือกขนาดของ Safety valve ให้มีความสอดคล้องของท่อส่งที่ทำงานภายในอุตสาหกรรม
การเลือกประเภทของ Safety valve ที่เฉพาะเจาะจงนั้นควบคุมด้วยหลายปัจจัยด้วยกัน
- ต้นทุน คือปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือก Safety valve สำหรับการใช้งานที่ไม่สำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับราคา จำเป็นต้องพิจารณาถึงความจุของวาล์ว และขนาดที่กำหนดด้วย
- ประเภทของระบบ สามารถใช้ Safety valve ที่มีฝาครอบเปิดได้กับไอน้ำ อากาศ หรือก๊าซที่ไม่เป็นพิษ หากปล่อยสู่บรรยากาศการใช้งานกับกก๊าซเหล่านี้มักใช้ประเภทคันโยก สำหรับการใช้งานกับก๊าซหรือของเหลวที่ไม่อนุญาติให้รั่วไหลออกสู่บรรยากาศ จะต้องระบุฝาปิดแบบปิด ในการใช้งานดังกล่าวจำเป็นต้องใช้ฝาปิดแบบปิดสนิทหรือคันโยกแบบอัดแน่น
- โครงสร้างของ Safety valve ควรเลือกโครงสร้างแบบกึ่งหัวฉีดสำหรับสื่อประเภทไม่เป็นพิษและไม่กัดกร่อนที่ความดันปานกลาง ในขณะที่วาล์วที่มีโครงสร้างแบบหัวฉีดเต็มมักใช้ในอุตสาหกรรมกระบวนการที่กัดหร่อนหรือสำหรับแรงดันสูงมาก สำหรับของเลหวที่กัดกร่อน หรืออุณหภูมิสูง อาจต้องใช้วัสดุโครงสร้างพิเศษร่วมด้วย
- ลักษณะการทำงาน ข้อกำหนดในส่วนของประสิทธิภาพแตกต่างกันไปตามการใช้งานและต้องเลือก Safety valve ให้เหมาะสมสำหรับหม้อไอน้ำ จำเป็นต้องมีแรงดันเกินเล็กน้อย โดยปกติอยู่ที่ 3% หรือ 5% สำหรับการใช้งานอื่นๆ ส่วนใหญ่ จำเป็นต้องมีแรงดันเกิน 10% แต่ตาม API 520 สำหรับการใช้งานพิเศษ เช่น การป้องกันอัคคีภัย วาล์วขนาดใหญ่ที่มีแรงดันเกิน 20% ได้รับอนุญาต สำหรับของเหลว แรงดันเกินที่ 10% หรือ 25% ถือเป็นเรื่องปกติ และค่าการระบายมักจะอยู่ที่ 20%
- การอนุมัติ สำหรับการใช้งาน Safety valve หลายๆ ประเภท ผู้ใช้ปลายทางจะระบุรหัสหรือมาตรฐานที่จำเป็นสำหรับการก่อสร้างและประสิทธิภาพของ Safety valve ซึ่งโดยปกติจะมาพร้อมกับข้อกำหนดในการขออนุมัติจากหน่วยงานอิสระ เพื่อรับประกันความสอดคล้องกับมาตรฐานกำหนด
การตั้งค่าและการปิดผนึก Safety valve
เพื่อที่จะสามารถใช้งาน วาล์วนิรภัย Safety valve ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและถูกต้อง จำเป้นต้องพิจารณาเงื่อนไขต่อไปนี้อย่างรอบคอบ
- แรงดันทำงานปกติ (NWP) แรงดันทำงานของระบบภายใต้สภาวะโหลดเต็ม
- แรงดันใช้งานสูงสุดที่อนุญาต (MAWP) - บางครั้งเรียกว่าแรงดันใช้งานที่ปลอดภัย (SWP) หรือแรงดันออกแบบของระบบ นี่คือแรงดันสูงสุดที่มีอยู่ในสภาวะการทำงานปกติ (เทียบกับอุณหภูมิการทำงานสูงสุด) ของระบบ
- แรงดันสะสมสูงสุดที่อนุญาต (MAAP) - แรงดันสูงสุดที่ระบบได้รับอนุญาตให้เข้าถึงได้ตามข้อกำหนดของมาตรฐานการออกแบบของระบบ
MAAP มักจะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ของ MAWP สำหรับเครื่องใช้ไอน้ำ ค่า MAAP มักจะสูงกว่าค่า MAWP 10% แต่ก็ไม่ใช่กรณีนี้เสมอไป หากไม่สามารถใช้ค่า MAWP ได้ทันที ควรติดต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบในการประกันอุปกรณ์ หากไม่สามารถกำหนดค่า MAAP ได้ ก็ไม่ควรถือว่าค่า MAAP สูงกว่าค่า MAWP
- ตั้งค่าแรงดัน (P) – แรงดันที่วาล์วความปลอดภัยเริ่มยกขึ้น
- แรงดันระบาย (PR) - นี่คือแรงดันที่ทำให้วาล์วระบายแรงดันทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นผลรวมของแรงดันที่ตั้งไว้ (PS) และแรงดันเกิน (PO)
- แรงดันเกิน (PO) - แรงดันเกินคือเปอร์เซ็นต์ของแรงดันที่ตั้งไว้ซึ่งวาล์วความปลอดภัยได้รับการออกแบบมาให้ทำงาน
มีข้อจำกัดพื้นฐานสองประการที่ต้องคำนึงถึงเมื่อกำหนดแรงดันชุดวาล์วความปลอดภัย
1. แรงดันที่ตั้งไว้จะต้องต่ำเพียงพอเพื่อให้แน่ใจว่าแรงดันในการระบายจะไม่เกินแรงดันสะสมที่อนุญาตสูงสุด (MAAP) ของระบบ
2. แรงดันที่ตั้งไว้จะต้องสูงเพียงพอที่จะทำให้มีช่องว่างเพียงพอเหนือแรงดันใช้งานปกติ (NWP) เพื่อให้วาล์วความปลอดภัยปิดได้ อย่างไรก็ตาม แรงดันที่ตั้งไว้จะต้องไม่มากกว่าแรงดันใช้งานสูงสุดที่อนุญาต (MAWP)
เซฟตี้วาล์ว (Safety valve) แบรนด์ขายดี
หากสนใจสั่งซื้อ เซฟตี้วาล์ว (Safety valve) สามารถเช็คราคาล่าสุดที่ตรงใจและตรงต่อการนำไป ใช้งานคุ้มค่ากับงบประมาณโดยการแอดไลน์ได้ที่นี่เลย @northpower หรือ คลิกสอบถามแอดมิน ที่คอยบริการให้ข้อมูลสินค้าช่วยเทียบสเปคสินค้าตั้งแต่ 8:00 - 17:00 แอดเลยไม่ต้องรอ