สายลม คืออะไร มีกี่แบบ และ เลือกแบบไหนดี?
สายลมคืออะไร
สายลม Tubing มีลักษณะเป็นสายท่อเป็นท่อหรือสายที่ใช้ในการส่ง ลม หรือ ก๊าซ ในระบบที่ต้องการการไหลของก๊าซหรืออากาศในอุปกรณ์ต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว สายลม จะขดเป็นม้วนน้ำหนักเบามีความยืดหยุ่นและทนต่อแรงดันได้สูง ใช้สำหรับเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ เพื่อรับอากาศจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งมีหลากหลายชนิด และวัสดุที่ใช้ผลิตแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันที่การนำไปใช้งาน ซึ่งทำงานโดยใช้ลมหรือก๊าซเป็นตัวขับเคลื่อนเครื่องจักร หรืออุปกรณ์ต่างๆ ในหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมการผลิต, การขนส่ง, และระบบอัตโนมัติ สายลมมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้และความทนทานต่อสภาวะการทำงานที่แตกต่างกัน เช่น ความร้อน, ความดัน, หรือสารเคมีบางชนิดที่อาจสัมผัสในกระบวนการต่างๆ ดังนั้นหากจะต้องเลือกสายลมเพื่อนำไปใช้งานนั้น ควรจะต้องรู้จักชนิดของสายลม ดังนี้
สายลมมีกี่ชนิด
สายลมแบ่งเป็น 5 ชนิดตามวัสดุที่ใช้ในการผลิตสายลม ซึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานในระบบต่างๆ การเลือกวัสดุและขนาดของสายลมที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สายลม PU หรือ สายลมโพลียูรีเทน (Polyurethane)
มีคุณสมบัติทนต่ออุณหภูมิได้ที่ -20 ถึง 70°C มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการกระแทก เสียดสี นอกจากนี้ยังสามารถบิด หรืองอสายได้โดยไม่เกิดความเสียหาย น้ำหนักเบา นิยมใช้ในหลากหลายงาน เช่น ใช้กับกาพ่นสี หรืองานพ่นสี เครื่องพ่นหมอก ปั๊มลม โซลินอยด์วาล์ว กระบอกลม airbrush หรือระบบนิวเมติกส์ต่าง
สายลม PE หรือ สายโพลีเอรีเทน (Polyethylene)
มีคุณสมบัติทนต่ออุณหภูมิ -25 ถึง 80°C มีความยืดหยุ่น ทนต่อแรงดึงสูง น้ำหนักเบา มีแรงต้านในการไหลต่ำ สามารถรับแรงดันได้ถึง 10 Bar นอกจากนี้ยังทนต่อการกัดกร่อนของสารเคมี จึงนิยมใช้ในอุตสาหกรรม อาหาร อุตสาหกรรมน้ำดื่ม และระบบนิวเมติกส์ที่เป็นส่วนประกอบของงานอาหาร
สายลม สปริง (Polyurethane Spiral tube)
มีคุณสมบัติคล้ายกับ สายลม PU แต่จะมีความแข็ง และคืนตัวได้แบบสปริง สายลมชนิดนี้ออกแบบมาเพื่อสามารถจัดเก็บได้ง่าย และง่ายต่อการใช้งาน ปลายทั้งสองด้านมาพร้อมกับข้อต่อแบบสวมเร็วทั้งสองด้าน
สายลม ไนล่อน หรือ สายไนล่อน (NYLON)
สามารถทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -40 ถึง 70 °C มีความเหนียว ทนต่อการสึกหรอของผิว การกัดกร่อนของสารเคมี สารประกอบไฮโดร์คาร์บอน และน้ำมันได้ดี สามารถใช้ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง และใช้แรงดันได้สูงสุดที่ 25 Bar นิยมใช้งานในระบบนิวเมติกส์ เครื่องมือ CNC
สายลม เทปล่อน PTFE (Teflon tube)
มีคุณสมบัติทนต่ออุณหภูมิ -50 ถึง 280°C สามารถทนความร้อน สารเคมี ทนความดันมากกว่า 10 Bar หรืออาจสูงได้ถึง 30 Bar นอกจากนี้ยังเป็นฉนวนไฟฟ้า และต้านทานสภาพอากาศได้ดี เนื่องจากสายลมชนิดนี้มีความลื่นทำให้ชิ้นงานไม่เกาะติดผิว สายลมชนิดนี้ถูกนำมาผลิตเป็นท่ออ่อนเพื่อการส่งลมอัดในระบบ และยังถูกบังคับใช้ในอุตสาหกรรมประเภทอาหารและยา
การทำงานของสายลม ( Tubing )
สายลม (Tubing) ทำงานยังไง?
สายลม ทำหน้าที่ส่งลมหรือก๊าซ จากจุดหนึ่งไปยังจุดที่ต้องการโดยการส่งผ่านท่อที่มีขนาดและวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานของระบบนั้นๆ สายลมทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ในระบบนิวเมติกส์ เช่น คอมเพรสเซอร์ (Compressor), วาล์ว (Valve), เซ็นเซอร์ (Sensor), กระบอกสูบ (Cylinder) เป็นต้น เมื่อคอมเพรสเซอร์ผลิตลมหรือก๊าซแรงดันสูง (เช่น ลมอัด) แล้วส่งผ่านสายลมไปยังอุปกรณ์ต่างๆ เช่น กระบอกสูบหรือเครื่องจักรเพื่อขับเคลื่อนการทำงานของเครื่องจักรนั้นๆ โดยในระหว่างการส่งผ่านของสายลมจะมีการควบคุมการไหลของลมผ่านวาล์วที่เปิดหรือปิดในแต่ละขั้นตอนการทำงาน สายลมต้องทำหน้าที่ส่งผ่านลมหรือก๊าซในลักษณะที่มีความเร็วการไหลที่เหมาะสมและการสูญเสียแรงดันน้อยที่สุด ซึ่งสายลมที่ดีควรจะมีคุณสมบัติในการทนทานต่อความดันที่สูงและทนต่อการสึกหรอจากการใช้งาน
วิธีการทำงานของสายลมในระบบ
- คอมเพรสเซอร์ หรือแหล่งลมจะทำการอัดลมหรือก๊าซ และปล่อยออกมาในระดับแรงดันที่เหมาะสม
- สายลม ทำหน้าที่ส่งลมหรือก๊าซจากแหล่งผลิตไปยังอุปกรณ์ที่ต้องการใช้งาน เช่น กระบอกสูบ, วาล์ว หรือเครื่องจักรต่างๆ
- วาล์ว ควบคุมการไหลของลมในสายลมเพื่อทำงานในรูปแบบต่างๆ เช่น การเปิด-ปิด การชะลอความเร็ว หรือการเปลี่ยนทิศทางการไหล
- เมื่อ ลม ไปถึงอุปกรณ์ที่ต้องการ กระบอกสูบ หรือ เครื่องจักร, การเคลื่อนไหวหรือการทำงานจะเกิดขึ้น เช่น การขยับแขนกล หรือการขับเคลื่อนเครื่องจักร
หากสนใจในการสั่งชื้อ Tubing สายลม สามารถเช็คราคาล่าสุดที่ตรงใจและตรงต่อการนำไปใช้งานคุ้มค่ากับงบประมาณโดยการแอดไลน์ได้ที่นี่เลย @northpower หรือ คลิกสอบถามแอดมิน ที่คอยบริการให้ข้อมูลสินค้าช่วยเทียบสเปคสินค้าตั้งแต่ 8:00 - 17:00 แอดเลยไม่ต้องรอ