ส่วนประกอบ Ball Screw (บอลสกรู) มีอะไรบ้าง แต่ละส่วนมีหน้าที่อะไร
ส่วนประกอบของบอลสกรู (Ball Screw) และหน้าที่ของแต่ละส่วน
บอลสกรู (Ball Screw) เป็นชิ้นส่วนสำคัญในงานเครื่องจักรกลสมัยใหม่ โดยเฉพาะเครื่องจักรที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น CNC, หุ่นยนต์อุตสาหกรรม และระบบอัตโนมัติในโรงงาน เพื่อให้เข้าใจการทำงานและการบำรุงรักษาได้อย่างถูกต้อง จำเป็นต้องรู้จัก ส่วนประกอบหลักของบอลสกรู และหน้าที่ของแต่ละส่วน
1. แกนสกรู (Screw Shaft)
แกนสกรูเป็นชิ้นส่วนหลักที่มีลักษณะเป็นแท่งกลมยาว ภายนอกมี ร่องเกลียว (Thread Groove) ซึ่งถูกออกแบบมาให้ลูกบอลสามารถกลิ้งผ่านได้
หน้าที่
- ทำหน้าที่เป็นเส้นทางให้ลูกบอลหมุนวน และเป็นตัวเปลี่ยนการหมุนของแกนสกรูให้กลายเป็นการเคลื่อนที่เชิงเส้นของน็อต
- รองรับแรงจากการเคลื่อนที่ทั้งแรงกดและแรงดึง
- เป็นแกนหลักที่รับแรงหมุนจากมอเตอร์หรือแรงขับอื่น ๆ
ลักษณะสำคัญ
- เกลียวสกรูมีหลายประเภท เช่น แบบมาตรฐาน (Standard Screw), แบบสั้น (Short Lead) และ แบบละเอียด (Precision Screw)
- ความแม่นยำของแกนสกรูส่งผลโดยตรงต่อความเที่ยงตรงของการเคลื่อนที่
2. น็อตบอล (Ball Nut)
น็อตบอลเป็นตัวกลางที่บรรจุลูกบอลอยู่ภายใน ทำหน้าที่หมุนรอบแกนสกรู และเคลื่อนที่ไปตามแกนเมื่อสกรูหมุน
หน้าที่
- รับแรงจากแกนสกรูและถ่ายทอดไปยังชิ้นงานที่ต้องการเคลื่อนที่
- ทำให้การเคลื่อนที่เป็นเชิงเส้นอย่างแม่นยำ
- ลดแรงเสียดทานด้วยการใช้ลูกบอลหมุนแทนการเสียดสีโดยตรง
ลักษณะสำคัญ
- มีขนาดและรูปแบบร่องเกลียวที่ตรงกับแกนสกรู
- ประสิทธิภาพของน็อตบอลสูง ทำให้แรงเสียดทานต่ำและประหยัดพลังงาน
3. ลูกบอล (Ball)
ลูกบอลทำจากเหล็กกล้า หรือวัสดุที่มีความแข็งสูง เช่น เหล็กชุบแข็ง (Hardened Steel) โดยมีรูปร่างกลมเรียบ
หน้าที่
- เป็นตัวกลางในการถ่ายโอนแรงจากแกนสกรูไปยังน็อตบอล
- ลดแรงเสียดทานระหว่างเกลียวสกรูและน็อต ทำให้การเคลื่อนที่ราบรื่น
- ป้องกันการสึกหรอและยืดอายุการใช้งานของระบบ
ลักษณะสำคัญ
- ขนาดและจำนวนลูกบอลขึ้นอยู่กับขนาดของบอลสกรูและน้ำหนักโหลด
- การจัดเรียงลูกบอลอย่างเหมาะสมช่วยเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพ
4. รางหมุนเวียนลูกบอล (Ball Return System)
เป็นช่องทางที่ช่วยให้ลูกบอลหมุนวนกลับไปยังตำแหน่งเริ่มต้นหลังจากผ่านร่องเกลียวำ
หน้าที่
- ทำให้ลูกบอลเคลื่อนที่ต่อเนื่องโดยไม่สะดุด
- ช่วยรักษาประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดของบอลสกรู
- ป้องกันการสูญเสียลูกบอลและลดแรงสั่นสะเทือน
ลักษณะสำคัญ
- มีหลายแบบ เช่น แบบท่อหมุนเวียน (Tube Type Return), แบบแผ่นพลิกกลับ (Deflector Type)
- การออกแบบระบบหมุนเวียนลูกบอลมีผลต่อเสียงการทำงานและความนุ่มนวลของการเคลื่อนที่
5. ฝาครอบน็อตบอล (End Cap / Ball Nut Cover)
ฝาครอบน็อตบอลทำหน้าที่ป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปในร่องเกลียวและลูกบอล
หน้าที่
- ป้องกันการสึกหรอจากฝุ่นละอองหรือเศษโลหะ
- ยืดอายุการใช้งานของน็อตบอลและลูกบอล
- ลดความเสี่ยงต่อความผิดพลาดในการเคลื่อนที่ของชิ้นงาน
ลักษณะสำคัญ
- โดยทั่วไปทำจาก อลูมิเนียม, เหล็ก หรือพลาสติกวิศวกรรม ที่มีความแข็งแรงและทนต่อการกัดกร่อน
- บางรุ่นของฝาครอบทำหน้าที่ เก็บลูกบอลไม่ให้หลุดออกจากร่องเกลียว เมื่อถอดน็อตบอลจากสกรู
6. แบริ่งรองรับ (Support Bearing)
แบริ่งรองรับติดตั้งอยู่ปลายแกนสกรู ทำหน้าที่รองรับแรงหมุนและแรงตามแนวแกน
หน้าที่
- ลดแรงสั่นสะเทือนและความเพี้ยนของแกนสกรู
- ทำให้แกนสกรูหมุนได้อย่างราบรื่น
- รองรับแรงทั้งในแนวแกนและแรงด้านข้างบางส่วน
ลักษณะสำคัญ
- แบริ่งอาจเป็นแบบ Angular Contact Bearing หรือ Thrust Bearing ขึ้นอยู่กับการออกแบบระบบ
- การเลือกแบริ่งที่เหมาะสมช่วยให้บอลสกรูมีอายุใช้งานยาวนานและความแม่นยำสูง
7. โครงสร้างตัวเครื่อง / ฮ้าส์ซิ่ง (Housing / Mounting)
เป็นส่วนที่ยึดบอลสกรูและน็อตบอลเข้ากับเครื่องจักร เพื่อให้ระบบเคลื่อนที่ได้อย่างมั่นคง
หน้าที่
- รักษาการจัดตำแหน่งของแกนสกรูและน็อตบอล
- ป้องกันการบิดเบี้ยวและลดแรงสั่นสะเทือน
- ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างรับแรงและติดตั้งกับชิ้นงาน
ลักษณะสำคัญ
- ทำจาก เหล็กกล้า, เหล็กหล่อ หรืออะลูมิเนียมมีคุณสมบัติ แข็งแรง ทนการบิดงอ และทนการสั่นสะเทือน
- บางรุ่นมีการ ชุบแข็ง (Heat Treatment) หรือ เคลือบผิวป้องกันสนิม เพื่อยืดอายุการใช้งาน
Ball Screw (บอลสกรู) ประกอบด้วย แกนสกรู, น็อตบอล, ลูกบอล, ระบบหมุนเวียนลูกบอล, ฝาครอบน็อต, แบริ่งรองรับ และโครงสร้างตัวเครื่อง แต่ละส่วนมีหน้าที่เฉพาะในการถ่ายทอดแรง ลดแรงเสียดทาน และรักษาความแม่นยำในการเคลื่อนที่เชิงเส้น ทำงานร่วมกันอย่างซับซ้อนแต่มีประสิทธิภาพสูง การเข้าใจส่วนประกอบและหน้าที่เหล่านี้ช่วยให้สามารถเลือกใช้บอลสกรูได้อย่างเหมาะสมและบำรุงรักษาได้อย่างถูกต้อง
การติดตั้ง Ball Screw (บอลสกรู) โดยทั่วไป
บอลสกรู (Ball Screw) เป็นชิ้นส่วนสำคัญในระบบการเคลื่อนที่เชิงเส้น (Linear Motion System) ที่มีความแม่นยำสูงและต้องการการประกอบอย่างถูกต้อง เพื่อให้เครื่องจักรทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ การติดตั้งบอลสกรูไม่ใช่เพียงการนำแกนสกรูและน็อตบอลเข้าประกอบเข้ากับเครื่องจักรเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงการจัดแนว การรองรับแรง การตั้งค่าพรีโหลด (Preload) และการหล่อลื่นที่เหมาะสม หากติดตั้งไม่ถูกต้องจะส่งผลให้เกิดการสั่นสะเทือน การสึกหรอเร็ว และความแม่นยำลดลง
1. การเตรียมก่อนติดตั้ง
- ตรวจสอบชิ้นส่วนบอลสกรู ว่าไม่มีรอยสึกหรอ รอยขีดข่วน หรือการบิดงอของแกน
- ตรวจสอบน็อตบอล ว่าไม่มีการรั่วไหลของลูกบอล และระบบหมุนเวียนลูกบอลทำงานได้ปกติ
- ตรวจสอบแบริ่งรองรับ ที่ปลายสกรูว่ามีความเรียบร้อยและตรงตามสเปค
- ทำความสะอาดพื้นที่ติดตั้ง เพื่อป้องกันฝุ่นหรือเศษโลหะเข้าไปในระบบ
2. การติดตั้งแบริ่งรองรับ (Support Bearing Installation)
- ปลายด้านขับ (Drive End) มักใช้ Angular Contact Bearing เพื่อรองรับแรงทั้งในแนวรัศมีและแนวแกน
- ปลายด้านรองรับ (Support End) อาจใช้ Radial Bearing หรือ Fixed-End Support เพื่อช่วยยึดแกนให้นิ่ง
- ต้องตรวจสอบให้การกดอัดแบริ่ง (Bearing Preload) อยู่ในค่าที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการคลอนและเพิ่มความแข็งแรงในการเคลื่อนที่
3. การติดตั้งแกนสกรู (Screw Shaft Installation)
- นำแกนสกรูใส่ผ่านแบริ่งที่เตรียมไว้ โดยใช้ การจัดแนวแกนตรง (Alignment) ให้ได้ศูนย์กลางตรงกับตัวเครื่อง
- ห้ามใช้แรงกระแทกในการติดตั้ง เพราะจะทำให้เกลียวสกรูและลูกบอลเสียหาย
- ควรใช้เครื่องมือหรือปลอกนำ (Guide Sleeve) เพื่อป้องกันลูกบอลหลุดออกจากน็อตบอลระหว่างการติดตั้ง
4. การติดตั้งน็อตบอล (Ball Nut Installation)
- เมื่อติดตั้งแกนสกรูเข้าที่แล้ว จึงใส่น็อตบอลเข้ากับแกน โดยใช้ ท่อใส่ลูกบอล (Ball Nut Guide Tube) เพื่อป้องกันลูกบอลหล่น
- ตรวจสอบการเคลื่อนที่ของน็อตบอลบนแกนสกรูว่าเลื่อนได้อย่างราบรื่น ไม่มีการสะดุดหรือฝืด
- หากต้องการลด Backlash (ระยะคลอนของน็อตกับสกรู) สามารถปรับ Preload ของน็อตบอลให้เหมาะสมกับงาน เช่น งาน CNC จะต้องตั้ง Preload ค่อนข้างสูงเพื่อความแม่นยำ
5. การจัดแนวและการยึด (Alignment & Mounting)
- หลังจากติดตั้งทั้งแกนและน็อตแล้ว ต้องตรวจสอบว่าแนวของแกนสกรูตรงกับแนวการเคลื่อนที่ของโต๊ะงาน (Table) หรือชิ้นส่วนที่ต้องการขับเคลื่อน
- ใช้ Dial Indicator เพื่อตรวจสอบความตรง (Runout) ของแกนสกรู หากพบการเบี่ยงเบนมากเกินไป ต้องปรับการยึดใหม่
- ยึดน็อตบอลเข้ากับตัวโครงสร้างหรือตัวยึดโต๊ะงานด้วยสกรูยึดที่แข็งแรง ป้องกันการขยับตัว
6. การหล่อลื่น (Lubrication)
- ใช้น้ำมันหล่อลื่น (Lubricating Oil) หรือจาระบี (Grease) ตามที่ผู้ผลิตแนะนำ
- ติดตั้ง จุดจ่ายน้ำมัน (Lubrication Port) ที่น็อตบอล เพื่อให้สามารถเติมน้ำมันหรือจาระบีได้อย่างต่อเนื่อง
- การหล่อลื่นไม่เพียงช่วยลดแรงเสียดทาน แต่ยังช่วยป้องกันสนิมและการสึกหรอ
7. การป้องกันสิ่งสกปรก (Protection)
- ติดตั้ง ซีลกันฝุ่น (Seals) ที่ปลายของน็อตบอล เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นหรือเศษโลหะเข้ามาในร่องเกลียว
- ใช้ ฝาครอบกันฝุ่น (Telescopic Cover / Bellows Cover) ครอบแกนสกรู เพื่อป้องกันเศษวัสดุจากการกัด เจาะ หรือกลึง
- สิ่งสกปรกที่เข้าสู่ระบบบอลสกรูจะทำให้ลูกบอลและร่องเกลียวสึกหรอเร็วมาก
8. การตรวจสอบหลังการติดตั้ง (Final Inspection)
- ตรวจสอบการหมุนของแกนสกรูว่าลื่นไหล ไม่มีเสียงผิดปกติ
- ตรวจสอบการเคลื่อนที่เชิงเส้นของน็อตบอลว่ามีความแม่นยำตามที่ออกแบบ
- ตรวจสอบการสั่นสะเทือนและอุณหภูมิที่เกิดขึ้นในระหว่างการทดสอบการทำงาน
- หากพบปัญหาต้องปรับแนว (Realignment) และตรวจสอบพรีโหลดใหม่
การติดตั้งบอลสกรูต้องอาศัยความละเอียดรอบคอบ ตั้งแต่การเตรียมชิ้นส่วน ตรวจสอบความเรียบร้อย การติดตั้งแบริ่งและแกนสกรู การใส่น็อตบอล การจัดแนว และการหล่อลื่นที่เหมาะสม การติดตั้งที่ถูกต้องจะช่วยให้บอลสกรูทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เคลื่อนที่ได้แม่นยำ ราบรื่น และมีอายุการใช้งานยาวนาน ตรงกันข้าม หากติดตั้งผิดวิธีอาจทำให้เกิดการสึกหรอเร็ว เกิดเสียงดัง ความแม่นยำลดลง และเพิ่มค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
ขาย บอลสกรู (Ball Screw) ราคาถูก
ข้อดีของการซื้อ บอลสกรู (Ball Screw) กับบริษัทนอร์ทพาวเวอร์
ลูกค้าจะได้สินค้าของแท้ ตรงตามโมลเดลที่ต้องการคุ้มค่าในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและ ลดต้นทุนการดำเนินงานในโรงงานของลูกค้า หากสนใจในการสั่งชื้อ บอลสกรู (Ball Screw)สามารถเช็คราคาล่าสุดที่ตรงใจและตรงต่อการนำไปใช้งานคุ้มค่ากับงบประมาณโดยการแอดไลน์ได้ที่นี่เลย @northpower หรือ คลิกสอบถามแอดมิน ที่คอยบริการให้ข้อมูลสินค้าช่วยเทียบสเปคสินค้าตั้งแต่ 8:00 - 17:00 แอดได้เลย อย่ารอช้า