รอกคืออะไร มีกี่แบบ และทำงานอย่างไร?

รอก คืออะไร?
รอก เป็นอุปกรณ์กลไกในงานอุตสาหกรรม งานก่อสร้างและแม้แต่ในกิจกรรมประจำวันบางประเภท รอกทำหน้าที่หลักในการช่วยยกหรือเคลื่อนย้ายวัตถุที่มีน้ำหนักมากโดยใช้หลักการทางฟิสิกส์เรื่องแรงและแรงเสียดทาน เพื่อลดแรงที่ผู้ปฏิบัติต้องใช้ ทำให้การยกของหนักสามารถทำได้ง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากการยกแล้วรอกยังมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเคลื่อนที่ของวัตถุเช่นรอกที่ใช้ใน เครนสามารถช่วยยกและเคลื่อนย้ายเหล็กแผ่นคอนกรีตหรือเครื่องจักรหนักๆได้อย่างแม่นยำและ ปลอดภัยนอกจากนี้ในงานเดินเรือหรือกีฬาเช่นปีนเขารอกก็มีประโยชน์ในการช่วยจัดการเชือกและ น้ำหนักเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน วัสดุที่ใช้ทำรอกก็มีหลากหลายตั้งแต่โลหะเช่นเหล็กและ อลูมิเนียม ซึ่งให้ความแข็งแรงทนทานสูง เหมาะกับงานหนัก ไปจนถึงพลาสติกที่มีน้ำหนักเบา เหมาะกับงานเบาหรือใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไม่รุนแรงการออกแบบรอกยังต้องคำนึงถึงขนาดล้อร่องรางของล้อเชือกความลื่นไหลและความทนทานต่อแรงเสียดทานเพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน
รอกมีกี่แบบ และเลือกอย่างไร
การเลือกรอก ควรเลือกจากแต่ละองประกอบให้เหมาะสมกับการใช้ โดยพิจรณาจากโครงสร้างของรอก เราจะเห็นได้ว่า รอกจะมี 2 องประกอบหลักๆ คือ
- ประเภทกำลังที่ใช้ยก
- ประเภทของวัสดุที่ใช้รับแรงโหลด
ประเภทกำลังที่ใช้ยก
กำลังที่ใช้ในการยกวัตถุ คือแรงหรือพลังงานที่ถูกนำมาใช้เพื่อเคลื่อนย้ายสิ่งของจากตำแหน่งหนึ่ง ไปยังอีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งในงานยกต่าง ๆ มีหลายประเภทของกำลังที่สามารถนำมาใช้ ขึ้นอยู่กับน้ำ หนักของวัตถุ ความสูงที่ต้องยก ความเร็วที่ต้องการ และสภาพแวดล้อมในการทำงาน การเข้าใจ ประเภทกำลังเหล่านี้ช่วยให้การเลือกอุปกรณ์ยกเป็นไปอย่างเหมาะสม ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ สูงสุด และที่มาของกำลังจะแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ
1. รอกไฟฟ้า
รอกไฟฟ้าจะใช้แรงขับจากมอเตอร์ มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนรอกหรือเครนไฟฟ้า กำลังไฟฟ้า ทำให้การยกวัตถุทำได้ต่อเนื่องรวดเร็ว และมีความเสถียร เหมาะกับงานอุตสาหกรรม งานคลังสินค้า หรือโรงงานที่ต้องยกของหนักบ่อยครั้ง นอกจากนี้ระบบไฟฟ้ายังสามารถรวมเข้ากับระบบอัตโนมัติ หรือรีโมตคอนโทรลเพื่อเพิ่มความสะดวกและปลอดภัย

2. รอกมือสาว
รอกมือสาว หรือที่เรียกว่า รอกโซ่มือ (Chain Block) เป็นอุปกรณ์ยกของที่ใช้แรงคนในการหมุน โซ่เพื่อยกหรือลดวัตถุที่มีน้ำหนักมาก เหมาะสำหรับงานยกของในพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้า หรือในกรณีที่ต้อง การความปลอดภัยสูงจากการเกิดไฟฟ้าช็อตและประกายไฟ เช่น ในพื้นที่อับอากาศ หรือสถานที่ที่ มีวัตถุไวไฟ

3. รอกนิวเมติก
รอกนิวเมติกใช้ลมอัดเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน ระบบนี้เหมาะกับงานที่ต้องการความรวดเร็ว น้ำหนักเบา และปลอดภัยจากไฟฟ้าหรือการระเบิด เช่น แขนกลอัตโนมัติหรืออุปกรณ์ยกชิ้นงานใน โรงงานอิเล็กทรอนิกส์ แม้จะมีแรงยกน้อยกว่าระบบไฮดรอลิก แต่ดูแลรักษาง่ายและสะอาดกว่า

ประเภทของวัสดุที่ใช้รับแรงโหลด
วัสดุที่ใช้รับแรงโหลดในงานวิศวกรรมและอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้าง เครื่องจักรกล ยานยนต์ หรืออุปกรณ์ยกของ วัสดุเหล่านี้ต้องสามารถรับแรงได้โดยไม่เกิดการเสียรูปหรือแตกหัก ทั้งแรงดึง แรงอัด แรงบิด และแรงเฉือน ซึ่งการเลือกวัสดุที่เหมาะสมจะส่งผลโดยตรงต่อความ แข็งแรง ความปลอดภัย และอายุการใช้งานของชิ้นงานนั้นๆโดยทั่วไป วัสดุที่ใช้รับแรงโหลดสามารถ แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
1. รอกโซ่
รอกโซ่เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยก เคลื่อนย้าย หรือยึดวัตถุที่มีน้ำหนักมากโดยใช้ระบบโซ่ในการส่ง กำลัง ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือยกที่สำคัญในงานอุตสาหกรรม ก่อสร้าง และซ่อมบำรุงเครื่องจักรต่าง ๆ จุดเด่นของรอกโซ่คือสามารถยกของหนักได้ด้วยแรงเพียงเล็กน้อย และควบคุมการยกได้อย่าง แม่นยำ ปลอดภัย และสะดวกต่อการใช้งาน

2. รอกสลิง
รอกสลิงเป็นอุปกรณ์ยกของที่ใช้ “สลิงเหล็ก” หรือ “ลวดสลิง ” เป็นตัวรับแรงในการ ยกวัตถุแทนการใช้โซ่ มีความแข็งแรงสูง เหมาะสำหรับงานยกของหนักและใช้งานต่อเนื่องในโรงงาน อุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง รอกสลิงมักถูกติดตั้งร่วมกับเครนเหนือศีรษะ เครนรางเดี่ยว หรือเครนขาเดียวเพื่อช่วยให้การเคลื่อนย้ายวัตถุมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

องค์ประกอบหลักของรอก
รอกเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยทดแรงในการยกหรือดึงวัตถุที่มีน้ำหนักมาก โดยใช้หลักการ หมุนของล้อและการเคลื่อนที่ของเชือกหรือโซ่ ซึ่งรอกจะประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลักหลายส่วน ที่ทำงานร่วมกันเพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยองค์ประกอบ สำคัญของรอกมีดังนี้
| ส่วนประกอบ (ภาษาไทย) | ส่วนประกอบ (ภาษาอังกฤษ) | หน้าที่ |
|---|---|---|
| โครง/เปลือก | Shell | ตัวเรือนภายนอกที่ห่อหุ้มและป้องกันส่วนประกอบภายในของรอก เช่น มอเตอร์และกลไกเฟือง |
| โครงรองรับ | Support frame | โครงสร้างสำหรับยึดตัวรอกเข้ากับคาน (Beam) หรือระบบราง (Trolley) ที่ใช้ในการเคลื่อนที่ |
| หม้อแปลงไฟฟ้า | Transformer | ทำหน้าที่ลดแรงดันไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายหลักลงให้เหมาะสมกับวงจรควบคุม (Control Circuit) และปุ่มกด (Push button) เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน |
| อุปกรณ์เบรกแม่เหล็กด้านข้าง | Side magnetic braking device | เป็นระบบเบรกไฟฟ้าที่ใช้แรงแม่เหล็กช่วยในการหยุดการหมุนของมอเตอร์อย่างรวดเร็วและแม่นยำเมื่อหยุดการทำงาน |
| คอนแทกเตอร์แม่เหล็กไฟฟ้า | Electromagnetic contactor | เป็นสวิตช์ควบคุมด้วยไฟฟ้า ทำหน้าที่เปิด–ปิดกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จ่ายไปยังมอเตอร์ เพื่อสั่งให้รอกยกขึ้นหรือลง |
| สวิตช์จำกัด | Limit switch | ทำหน้าที่ตัดวงจรไฟฟ้าของมอเตอร์โดยอัตโนมัติ เมื่อตะขอ (Hook) เคลื่อนที่ไปถึงตำแหน่งสูงสุดหรือต่ำสุดที่กำหนด เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรอกและโซ่ |
| เบรกคู่กลไกทางกล | Mechanical dual braking | คือระบบเบรกสำรองหรือเบรกหลักทางกลไก (เช่น เบรกแผ่นดิสก์) ที่ทำงานร่วมกับเบรกไฟฟ้าเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการยก |
| อุปกรณ์ป้องกันลำดับเฟสย้อนกลับ | Inverse phase sequence protecting device | อุปกรณ์ป้องกันที่ตรวจสอบลำดับเฟสไฟฟ้า หากลำดับเฟสผิดปกติจะป้องกันไม่ให้มอเตอร์ทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการหมุนย้อนกลับ |
| โซ่ | Chains | โซ่เหล็กที่ใช้สำหรับคล้องและยกวัตถุ |
| ตะขอ | Hook | ส่วนปลายของโซ่ ใช้สำหรับเกี่ยวหรือคล้องวัตถุที่จะทำการยก |
| ปุ่มกด | Push button | แผงควบคุมมือถือที่ใช้สั่งงานให้รอกยกขึ้น (Up), ลง (Down), หรือหยุด (Stop) |
วัตถุประสงค์ของการใช้รอก
รอกเป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในงานอุตสาหกรรม การก่อสร้าง และงานซ่อมบำรุง ต่าง ๆ เพราะช่วยให้การยกหรือเคลื่อนย้ายวัตถุที่มีน้ำหนักมากเป็นไปได้ง่าย ปลอดภัย และมีประ สิทธิภาพมากขึ้น การใช้รอกจึงไม่เพียงช่วยลดภาระแรงงานคน แต่ยังช่วยเพิ่มความแม่นยำและ ลดความเสี่ยงในการทำงานอีกด้วย โดยวัตถุประสงค์หลักของการใช้รอกสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
1. เพื่อช่วยผ่อนแรงในการยกของหนัก
รอกถูกออกแบบมาเพื่อทดแรง ทำให้สามารถยกวัตถุที่มีน้ำหนักมากได้โดยใช้แรงน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นแรงคนหรือแรงจากมอเตอร์ไฟฟ้า การใช้รอกช่วยให้การทำงานสะดวกและปลอดภัยกว่าการยกด้วยมือโดยตรง
2. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
การใช้รอกช่วยลดเวลาในการยกและเคลื่อนย้ายวัตถุ โดยเฉพาะในงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ เช่น โรงงานผลิตหรือคลังสินค้า ทำให้กระบวนการทำงานต่อเนื่องและรวดเร็วขึ้น
3. เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน
การยกของหนักด้วยแรงคนอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุได้ การใช้รอกช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ เพราะระบบรอกมีอุปกรณ์นิรภัย เช่น เบรกอัตโนมัติ ตะขอล็อก และกลไกจำกัดระยะ
4. เพื่อยกและเคลื่อนย้ายวัตถุในพื้นที่จำกัด
ในบางสถานที่ เช่น โรงงาน ห้องเครื่อง หรือไซต์ก่อสร้างที่มีพื้นที่จำกัด รอกสามารถติดตั้งในตำแหน่งคงที่ เช่น เพดานหรือรางเลื่อน เพื่อยกของขึ้น–ลงในแนวดิ่งได้โดยไม่ต้องใช้เครนขนาดใหญ่
5. เพื่อควบคุมการยกอย่างแม่นยำ
รอกสามารถควบคุมระดับความเร็วและตำแหน่งของวัตถุได้อย่างละเอียด โดยเฉพาะรอกไฟฟ้า ซึ่งสามารถสั่งงานได้จากรีโมตหรือปุ่มควบคุม ทำให้การยกมีความแม่นยำ ปลอดภัย และลดความเสียหายของวัตถุ
6. เพื่อทุ่นแรงงานคนและลดค่าใช้จ่าย
การใช้รอกช่วยลดจำนวนแรงงานที่ต้องใช้ในการยกของ และลดความเมื่อยล้าของผู้ปฏิบัติงานในระยะยาว ซึ่งส่งผลให้ลดต้นทุนแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กร
7. เพื่อยกของในงานที่ไม่สามารถใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ได้
ในพื้นที่ที่ไม่สามารถนำรถยกหรือเครนเข้าไปได้ เช่น อาคารสูง พื้นที่แคบ หรือภายในเครื่องจักร รอกถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพราะสามารถติดตั้งและใช้งานได้ง่าย
8. เพื่อช่วยในงานขนส่งและจัดเก็บสินค้า
ในคลังสินค้า รอกช่วยยกของขึ้น–ลงจากชั้นเก็บของ หรือย้ายสินค้าไปยังรถขนส่งได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว ลดความเสียหายและแรงงานคน
ข้อควรระวังในการใช้งานรอก
1. ห้ามยกของเกินพิกัดที่กำหนด (Overload)
ทุกชนิดของรอกจะมีการระบุน้ำหนักยกสูงสุด (Rated Capacity) ไว้ชัดเจน ห้ามยกน้ำหนักเกินกว่าค่าที่กำหนด เพราะอาจทำให้โซ่หรือสลิงขาด ตัวรอกเสียหาย หรือเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้
2. ตรวจสอบรอกก่อนใช้งานทุกครั้ง
ควรตรวจดูสภาพของโซ่ สลิง ตะขอ และจุดยึดต่าง ๆ ว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยแตก สนิม หรือการบิดงอ หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้งานทันทีและซ่อมแซมก่อนใช้งานต่อ
3. ห้ามยืนหรือเดินผ่านใต้ของที่กำลังยก
วัตถุที่ถูกยกอาจตกลงมาได้หากระบบรอกขัดข้องหรือโซ่ขาด การยืนอยู่ใต้ของที่ยกถือเป็นอันตรายร้ายแรง ควรหลีกเลี่ยงทุกครั้งและจัดพื้นที่ทำงานให้ปลอดภัย
4. ตรวจสอบจุดแขวนรอกให้มั่นคง
จุดที่ใช้แขวนรอก เช่น คานหรือโครงเหล็ก ต้องมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรับน้ำหนักของทั้งรอกและวัตถุที่ยก หากจุดแขวนไม่มั่นคงอาจทำให้รอกหลุดหรือตกลงมาได้
5. ห้ามดึงรอกในแนวเฉียง
รอกออกแบบมาเพื่อการยกในแนวดิ่งเท่านั้น การดึงหรือยกในแนวเฉียงอาจทำให้แรงกระทำกระจายไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้โซ่ สลิง หรือตะขอเสียหายได้
6. ห้ามดึงโซ่หรือสลิงด้วยแรงกระชาก
การดึงโซ่หรือเชือกอย่างรุนแรงอาจทำให้เฟืองภายในรอกเสียหาย หรือทำให้โซ่ดีดกลับและเกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานได้
7. ควรใช้ตะขอที่มีตัวล็อกนิรภัย
เพื่อป้องกันไม่ให้ของหลุดจากตะขอขณะยก ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าตะขอมีตัวล็อก และอยู่ในสภาพดีไม่บิดงอหรือแตกหัก
ขาย รอก ราคาถูก
ข้อดีของการซื้อ รอก กับบริษัทนอร์ทพาวเวอร์
ลูกค้าจะได้สินค้าของแท้ ตรงตามโมลเดลที่ต้องการคุ้มค่าในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและ ลดต้นทุนการดำเนินงานในโรงงานของลูกค้า หากสนใจในการสั่งชื้อ รอก สามารถเช็คราคาล่าสุดที่ตรงใจและตรงต่อการนำไปใช้งานคุ้มค่ากับงบประมาณโดยการแอดไลน์ได้ที่นี่เลย @northpower หรือ คลิกสอบถามแอดมิน ที่คอยบริการให้ข้อมูลสินค้าช่วยเทียบสเปคสินค้าตั้งแต่ 8:00 - 17:00 แอดได้เลย อย่ารอช้า