เกจวัดรัศมีคืออะไร ?
เกจวัดรัศมี หรือ Radius Gauge คือเครื่องมือมือถือที่มีการกลึงส่วนโค้งมน ที่มีความแม่นยำจำนวนมากไว้ที่ขอบ เกจวัดรัศมีอาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเกจวัดมุมโค้งเป็นเครื่องมือวัดที่ใช้สำหรับตรวจสอบความโค้งมนของผิวชิ้นงาน โดยเฉพาะบริเวณที่มีรัศมีโค้ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในหลายอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ เครื่องจักรกล และอิเล็กทรอนิกส์ เกจวัดรัศมีมักจะประกอบด้วยแผ่นบางๆ ที่มีรัศมีโค้งต่างๆ กัน เมื่อนำไปทาบบนผิวชิ้นงานที่ต้องการตรวจสอบ หากรัศมีของเกจตรงกับรัศมีของผิวชิ้นงานพอดี จะเกิดการประกบสนิทกันอย่างสมบูรณ์ ทำให้เราสามารถตรวจสอบได้ว่ารัศมีของชิ้นงานตรงตามค่าที่กำหนดไว้หรือไม่
ส่วนประกอบของเกจวัดรัศมี
จากภาพที่คุณแสดงให้ดู เกจวัดรัศมี (Radius Gauge) มีส่วนประกอบหลักดังนี้
- ใบมีด (Leaves/Blades): เป็นแผ่นโลหะบางๆ มีความโค้งเว้า (concave) และโค้งนูน (convex) ที่แตกต่างกันออกไป แต่ละใบจะมีค่ารัศมีที่กำหนดไว้ชัดเจน
- ตัวเรือน (Case): เป็นส่วนที่ใช้เก็บใบมีดทั้งหมดไว้ด้วยกัน และมักมีกลไกสำหรับล็อคใบมีดที่เลือกใช้
- ตัวล็อค (Locking devices): ใช้สำหรับยึดใบมีดให้แน่นในขณะใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้ใบมีดหลุดออก
- ค่ารัศมีที่กำหนด (Inscribed measurement): เป็นตัวเลขที่ระบุค่ารัศมีของความโค้งของแต่ละใบมีด
เกจวัดรัศมีวิธีใช้ดังต่อไปนี้
การใช้งานเกจวัดรัศมีเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างง่าย แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและเชื่อถือได้ ควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้
1. เตรียมความพร้อม
- ตรวจสอบความสะอาด: ทั้งใบมีดและผิวชิ้นงานที่ต้องการวัดควรสะอาดปราศจากสิ่งสกปรกหรือคราบไขมัน
- แหล่งกำเนิดแสง: จัดเตรียมแหล่งกำเนิดแสงที่สว่างเพียงพอ เพื่อให้สามารถสังเกตช่องว่างระหว่างใบมีดกับชิ้นงานได้ชัดเจน
2. เลือกใบมีดที่เหมาะสม
- ประมาณค่ารัศมี: พิจารณาจากขนาดและรูปทรงของชิ้นงาน เพื่อประมาณค่ารัศมีคร่าวๆ
- เลือกใบมีดใกล้เคียง: เลือกใบมีดที่มีค่ารัศมีใกล้เคียงกับค่าที่ประมาณไว้
- ใบมีดคู่: หากชิ้นงานมีทั้งรัศมีนูนและรัศมีเว้า สามารถใช้ใบมีดคู่ที่วัดได้ทั้งสองแบบ
3. ทาบใบมีดลงบนชิ้นงาน
- แรงกด: กดใบมีดลงบนผิวชิ้นงานเบาๆ เพียงพอที่จะทำให้ใบมีดแนบสนิทกับผิวชิ้นงาน
- ตรวจสอบทุกจุด: เลื่อนใบมีดไปตามผิวโค้งของชิ้นงาน เพื่อตรวจสอบว่าใบมีดแนบสนิทตลอดแนวหรือไม่
4. สังเกตช่องว่าง
- แสง: ส่องแสงไปที่ช่องว่างระหว่างใบมีดกับผิวชิ้นงาน หากไม่มีแสงรอดผ่าน แสดงว่าใบมีดและชิ้นงานมีรัศมีเท่ากัน
- ช่องว่าง: หากมีช่องว่าง แสดงว่ารัศมีของใบมีดไม่ตรงกับรัศมีของชิ้นงาน ต้องเลือกใบมีดอื่นที่ใกล้เคียงกว่า
5. บันทึกผลการวัด
- บันทึกค่ารัศมี: เมื่อพบใบมีดที่ตรงกับรัศมีของชิ้นงาน ให้บันทึกค่ารัศมีของใบมีดลงไป
ยกตัวอย่างการใช้เกจวัดรัศมี
เพื่อให้เข้าใจภาพรวมได้ชัดเจนยิ่งขึ้นขอการใช้เกจวัดรัศมี
การใช้เกจวัดรัศมี "ระหว่างกระบวนการ" (In-Process Inspection)
1.การขึ้นรูปชิ้นงาน
- งานไม้: ช่างไม้ใช้เกจวัดรัศมีเพื่อตรวจสอบความโค้งของขาเก้าอี้, ขอบโต๊ะ หรือส่วนโค้งของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก่อนทำการประกอบ
- งานโลหะ: ช่างโลหะใช้ในการตรวจสอบรัศมีของท่อ, มุมโค้งของโครงสร้างเหล็ก หรือชิ้นส่วนยานยนต์ระหว่างการผลิต
- งานพลาสติก: ในอุตสาหกรรมพลาสติก เกจวัดรัศมีใช้ตรวจสอบความโค้งของชิ้นส่วนพลาสติก เช่น ด้ามจับ, ปุ่มกด หรือฝาครอบต่างๆ
2.การสร้างแม่พิมพ์
- แม่พิมพ์ฉีด: วิศวกรใช้เกจวัดรัศมีเพื่อตรวจสอบความแม่นยำของรัศมีในช่องแม่พิมพ์ก่อนการผลิตชิ้นงาน
- แม่พิมพ์หล่อ: ในการสร้างแม่พิมพ์หล่อโลหะ เกจวัดรัศมีใช้ตรวจสอบรัศมีของช่องหล่อเพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีรูปร่างตามต้องการ
3.การควบคุมคุณภาพ
- การผลิตซ้ำ: เกจวัดรัศมีช่วยให้มั่นใจว่าชิ้นงานที่ผลิตออกมาแต่ละชิ้นมีความสอดคล้องกันตามมาตรฐานที่กำหนด
- การแก้ไขปัญหา: หากพบว่าชิ้นงานมีรัศมีที่ไม่ตรงตามต้องการ เกจวัดรัศมีจะช่วยระบุตำแหน่งที่เกิดปัญหาเพื่อทำการแก้ไข
การใช้เกจวัดรัศมี "การตรวจสอบขั้นสุดท้าย" (Final Inspection)
1.การรับประกันคุณภาพ
- ก่อนส่งมอบ: ก่อนส่งมอบชิ้นงานให้ลูกค้า จะมีการตรวจสอบรัศมีอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าตรงตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในแบบ
- การควบคุมคุณภาพ: การตรวจสอบขั้นสุดท้ายช่วยลดโอกาสที่สินค้าที่มีตำหนิจะส่งถึงมือลูกค้า
2.การวิเคราะห์ความล้มเหลว
- หาสาเหตุ: หากชิ้นงานเกิดความเสียหาย เกจวัดรัศมีสามารถใช้ในการตรวจสอบหาสาเหตุของความล้มเหลว เช่น รัศมีที่ไม่เพียงพอ ทำให้ชิ้นงานแตกหักได้ง่าย
การบำรุงรักษาและการดูแลเกจวัดรัศมี
การบำรุงรักษาเกจวัดรัศมีอย่างถูกต้อง จะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาความแม่นยำในการวัดได้อย่างยาวนาน ดังนี้
1.การทำความสะอาด
- หลังการใช้งานทุกครั้ง: ควรทำความสะอาดใบมีดและตัวเรือนด้วยผ้าสะอาดและแห้ง เพื่อกำจัดคราบสกปรกหรือเศษวัสดุที่อาจติดอยู่
- หลีกเลี่ยงสารเคมี: อย่าใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนในการทำความสะอาด เพราะอาจทำให้ใบมีดเสียหายได้
- ตรวจสอบรอยขีดข่วน: ตรวจสอบใบมีดว่ามีรอยขีดข่วนหรือความเสียหายอื่นๆ หรือไม่ หากพบควรหยุดใช้งานและส่งซ่อม
2.การเก็บรักษา
- ที่แห้ง: เก็บเกจวัดรัศมีไว้ในที่แห้งและเย็น เพื่อป้องกันสนิมและการกัดกร่อน
- กล่องใส่: เก็บในกล่องเดิมหรือกล่องที่ออกแบบมาสำหรับเก็บเครื่องมือวัด เพื่อป้องกันความเสียหายจากการกระแทก
- แยกชิ้นส่วน: สำหรับเกจวัดรัศที่มีใบมีดหลายขนาด ควรแยกใบมีดออกจากตัวเรือนก่อนเก็บ เพื่อป้องกันใบมีดเสียหาย
3.การสอบเทียบ
- เป็นประจำ: ควรสอบเทียบเกจวัดรัศมีเป็นประจำตามระยะเวลาที่กำหนด หรือเมื่อสงสัยว่าความแม่นยำของเครื่องมือลดลง
- มาตรฐาน: ใช้มาตรฐานอ้างอิงที่ถูกต้องในการสอบเทียบ
- ผู้เชี่ยวชาญ: หากไม่มั่นใจในการสอบเทียบเอง ควรส่งให้ผู้เชี่ยวชาญทำการสอบเทียบ
4.ข้อควรระวังอื่นๆ
- หลีกเลี่ยงการตกกระแทก: การตกกระแทกอาจทำให้ใบมีดเสียรูปและส่งผลต่อความแม่นยำในการวัด
- ไม่ดัดแปลง: ห้ามดัดแปลงหรือซ่อมแซมเกจวัดรัศมีด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้เครื่องมือเสียหายได้
- ใช้งานอย่างถูกวิธี: ปฏิบัติตามคู่มือการใช้งานอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลการวัดที่ถูกต้อง
เหตุผลที่ต้องบำรุงรักษาเกจวัดรัศมี
- รักษาความแม่นยำ: การทำความสะอาดและสอบเทียบเป็นประจำจะช่วยให้เกจวัดรัศมีมีความแม่นยำในการวัด
- ดอายุการใช้งาน: การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยให้เกจวัดรัศมีใช้งานได้นานขึ้น
- ป้องกันความเสียหาย: การป้องกันไม่ให้เกจวัดรัศมีเสียหาย จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่
วัดรัศมีเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับตรวจสอบความโค้งของชิ้นงานโดยอาศัยหลักการเปรียบเทียบรัศมีของใบมีดกับรัศมีของชิ้นงาน การเลือกใช้ใบมีดที่เหมาะสมและการสังเกตช่องว่างระหว่างใบมีดกับผิวชิ้นงานอย่างละเอียด จะช่วยให้ได้ผลการวัดที่แม่นยำ
เกจวัดรัศมีเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่เพียงแต่ในวงการวิศวกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงงานฝีมือและงานศิลปะด้วยการใช้เกจวัดรัศมีอย่างถูกต้องจะช่วยให้ได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพสูงและตรงตามมาตรฐานที่กำหนด
เกจวัดรัศมี แบรนด์ขายดี คุณภาพดี ราคาถูก
หากสนใจในการสั่งชื้อเกจวัดรัศมี สามารถเช็คราคาล่าสุดที่ตรงใจและตรงต่อการนำไปใช้งานคุ้มค่ากับงบประมาณโดยการแอดไลน์ได้ที่นี่เลย @northpower หรือ คลิกสอบถามแอดมิน ที่คอยบริการให้ข้อมูลสินค้าช่วยเทียบสเปคสินค้าตั้งแต่ 8:00 - 17:00 แอดเลยไม่ต้องรอ