ไดอัลเกจ (dial gauge) คือ ? และ วิธีใช้ไดอัลเกจ?

ไดอัลเกจ (Dial Gauge) คืออะไร
ไดอัลเกจ (Dial Gauge) หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ "นาฬิกาวัด" คือเครื่องมือวัดที่มีความเที่ยงตรงสูง ออกแบบมาเพื่อวัดระยะทางการเคลื่อนที่เชิงเส้นขนาดเล็กได้อย่างแม่นยำ หลักการทำงานของมันคือการแปลงการเคลื่อนที่ของแกนสัมผัส (Plunger)ไปเป็นการหมุนของเข็มบนหน้าปัดทำให้ผู้ใช้งานสามารถอ่านค่าความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายมีหน้าปัดและสเกลคล้ายกับนาฬิกา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานเครื่องกล งานควบคุมคุณภาพ และงานซ่อมบำรุงที่ต้องการความแม่นยำสูงทำให้ไดอัลเกจ มักนำไปใช้วัดชิ้นงานได้อย่างมีมาตรฐานการผลิต รวมถึงตรวจสองความแม่นยำของความคาดเคลื่อนของเครื่องจักร เครื่องมือวัดละเอียดจึงสำคัญมากสำหรับวิศวกร ช่างซ่อมบำรุง และฝ่ายควบคุมคุณภาพ เพราะสามารถตรวจวัดได้อย่างง่ายและแม่นยำ หากใช้ไดอัลเกจอย่างถูกวิธี จะช่วยให้การควบคุมคุณภาพของงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
ความสำคัญของไดอัลเกจ (Dial Gauge)
ในโลกของงานช่างที่ต้องการความแม่นยำสูง ไม่ว่าจะเป็นงานกลึง งานประกอบ งานตั้งศูนย์ หรือการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องจักร “ไดอัลเกจ (Dial Gauge)” คือเครื่องมือวัดที่ขาดไม่ได้ในกล่องเครื่องมือของช่างเทคนิคมืออาชีพไปทำความเข้าใจ ประโยชน์ของไดอัลเกจ แบบละเอียด พร้อมเหตุผลที่ทำให้เครื่องมือนี้กลายเป็นหัวใจหลักในงานตรวจวัดละเอียดทุกแขนง
1. ความแม่นยำสูงระดับไมครอน
ไดอัลเกจสามารถวัด ค่าความคลาดเคลื่อน ความเยื้องศูนย์ หรือความเรียบผิว ได้ในระดับละเอียดมาก โดยทั่วไปมีความละเอียดอยู่ที่ 0.01 มิลลิเมตร และบางรุ่นสามารถวัดได้ถึง 0.001 มิลลิเมตร (1 ไมครอน) ซึ่งความละเอียดระดับนี้จำเป็นอย่างยิ่งในงานที่ต้องการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด เช่น:
- การตรวจสอบชิ้นงาน CNC
- การตั้งศูนย์เพลาเครื่องจักร
- การวัดการสึกหรอของแบริ่ง
2. ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
แม้ว่าไดอัลเกจจะเป็นเครื่องมือวัดละเอียด แต่ การใช้งานกลับไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ติดตั้งกับฐานแม่เหล็กหรือขาตั้ง แล้วปรับตำแหน่งให้เหมาะสม จากนั้นอ่านค่าจากหน้าปัดเข็มที่แสดงผลได้ทันที เหมาะสำหรับทั้งช่างเทคนิคมือใหม่และมืออาชีพ
- ไม่ต้องใช้ระบบไฟฟ้า
- อ่านค่าได้รวดเร็ว
- ไม่มีการคำนวณซับซ้อน
3. อเนกประสงค์ ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์
หนึ่งในจุดเด่นของไดอัลเกจก็คือ ความหลากหลายในการประยุกต์ใช้งาน ซึ่งรวมถึง:
- ไดอัลเกจวัดการเยื้องศูนย์ – ตรวจสอบความเยื้องของเพลาในเครื่องกล
- ไดอัลเกจวัดระยะเคลื่อนที่ – เช็กการเคลื่อนของชิ้นส่วนในระบบไฮดรอลิกหรือนิวแมติก
- ไดอัลเกจวัดความเรียบผิว – ใช้คู่กับเครื่องมือวัดระดับหรือแผ่นอ้างอิง
- ไดอัลเกจตั้งศูนย์แม่พิมพ์ – ช่วยให้การประกอบแม่พิมพ์และเครื่องจักรเป็นไปอย่างเที่ยงตรง
4. ให้ผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้ทุกครั้ง
โครงสร้างของไดอัลเกจออกแบบมาอย่างแข็งแรง ตัวเรือนผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น สเตนเลสหรือโลหะผสมแข็ง กลไกภายในได้รับการปรับเทียบ (calibration) อย่างแม่นยำจากโรงงาน ทำให้ ผลการวัดมีความเที่ยงตรง และสามารถใช้อ้างอิงในการควบคุมคุณภาพได้จริง
- ไม่ไวต่อแรงสั่นสะเทือน
- อายุการใช้งานยาวนาน
- บำรุงรักษาง่าย
ไดอัลเกจวิธีใช้

1. ติดตั้งเครื่องไดอัลเกจให้อยู่ในตำแหน่งพร้อมใช้งาน (Mount the dial gauge in a ready-to-use position):
- เลือกขาตั้งไดอัลเกจที่มั่นคง เช่น ฐานแม่เหล็ก (Magnetic Base) หรือแคลมป์ (Clamp)
- ติดตั้งไดอัลเกจเข้ากับขาตั้งให้แน่น โดยให้แกนสัมผัส (Plunger) สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ
- ปรับตำแหน่งของไดอัลเกจให้เหมาะสมกับชิ้นงานที่จะวัด โดยให้แกนสัมผัสตั้งฉากกับพื้นผิวที่จะวัดมากที่สุด
2. สอดเกจบล็อกที่มีขนาดที่เราต้องการวัดเข้าไป: ในขั้นตอนการตั้งศูนย์ (Zeroing) มักจะใช้เกจบล็อก (Gauge Block) ซึ่งเป็นบล็อกมาตรฐานที่มีขนาดความยาวที่แม่นยำ เพื่อใช้เป็นค่าอ้างอิงในการตั้งค่าเริ่มต้น
3. แล้วจึงหมุนตั้งค่าเข็มยาวให้ชี้ที่เลข 0: หลังจากที่แกนสัมผัสของไดอัลเกจสัมผัสกับเกจบล็อกแล้ว ให้หมุนขอบหน้าปัด (Bezel) เพื่อปรับให้เข็มยาว (เข็มหลัก) ชี้ที่เลขศูนย์ (0) นี่คือการตั้งค่าเริ่มต้นของการวัด
4. นำเกจบล็อกออก แล้วสอดชิ้นงานจริงเข้าไปแทนเพื่ออ่านค่าชิ้นงาน:
-นำเกจบล็อกออกอย่างระมัดระวัง>
-นำชิ้นงานที่ต้องการวัดเข้าไปใต้แกนสัมผัสของไดอัลเกจ
-อ่านค่าที่ได้จากตำแหน่งของเข็มยาวบนหน้าปัด
วิธีอ่าน ไดอัลเกจ
วิธีอ่านค่าไดอัลเกจ เข้าใจง่าย ได้ค่าแม่นยำ ดังต่อไปนี้
1 รอบหน้าปัดไดอัลเกจ มีค่าเท่ากับ 1 มิลลิเมตร และทุกๆ 1 Scale มีค่า 0.01 มิลลิเมตร หมายความว่า เข็มยาวเมื่อหมุนไป 1 ช่องเล็ก จะมีการเปลี่ยนแปลงขนาด 0.01 มิลลิเมตร และเมื่อหมุนครบ 1 รอบ จะมีการเปลี่ยนแปลงขนาด 1 มิลลิเมตร
วิธีอ่านค่า Scale เมื่อเข็มยาวหมุนเลยขีดมาแล้วว่ากำลังวัดในส่วนนั้นจะเป็นค่าบวกเพิ่ม และหากเข็มยาวหมุนทวนเข็ม จะมีค่าลดลงจากตำแหน่งเริ่มต้น 15 mm จากเกจบล็อก : อธิบายหลักการอ่านค่าเมื่อเข็มเคลื่อนที่จากจุดศูนย์ที่ตั้งไว้
1เข็มยาวหมุนตามเข็มไปอยู่ที่เลข 10 มีค่าเพิ่มขึ้น 0.01 mm x 10 = 0.1 mm นั่นแปลว่าชิ้นงานนั้นมีขนาด 15 + 0.1 = 15.1 mm (If the long pointer moves clockwise to the number 10, the increase is 0.01 mm x 10 = 0.1 mm. This means the workpiece size is 15 + 0.1 = 15.1 mm): ตัวอย่างการอ่านค่าเมื่อเข็มยาวหมุนตามเข็มนาฬิกา แสดงว่าขนาดของชิ้นงานใหญ่กว่าเกจบล็อกที่ตั้งไว้
เข็มยาวหมุนทวนเข็มไปอยู่ที่เลข 90 แสดงว่ากำลังวัดอยู่ในตำแหน่งที่ค่าลดลง 15 - 0.1 = 14.9 mm (If the long pointer moves counterclockwise to the number 90, it indicates a decrease in measurement, so the workpiece size is 15 - 0.1 = 14.9 mm): ตัวอย่างการอ่านค่าเมื่อเข็มยาวหมุนทวนเข็มนาฬิกา แสดงว่าขนาดของชิ้นงานเล็กกว่าเกจบล็อกที่ตั้งไว้
ส่วนประกอบ ไดอัลเกจ

1. ตัวเรือน (Case) ส่วนนอกสุดที่ใช้ป้องกันอุปกรณ์ภายใน ไม่ให้เกิดความเสียหาย
2. หน้าปัดสเกล (Graduated Scale) โดยจะแบ่งเป็น 100 ช่อง เมื่อเข็มยาวหมุนไปครบ 1 รอบจะอ่านค่าได้ 1 มิลลิเมตร
3. เข็มยาว (Pointer) ใช้วัดค่าความคลาดเคลื่อนของชิ้นงาน
4. หน้าปัดนับรอบ (Small Dial Gauge) ใช้ระบุค่าเมื่อเข็มยาวหมุนวนครบ 1 รอบ ใช้ได้กับไดอัลเกจที่มีหน้าปัดนับรอบ
5. เข็มสั้น (Small dial pointer) เข็นสั้น ใช้วัดค่ารอบของเข็มยาวว่าเคลื่อนที่ไปแล้วเป็นระยะเท่าไร โดยเมื่อเข็มยาวเคลื่อนที่ไปทุก 1 รอบเข็มสั้นจะเพิ่มขึ้นทีละ 1 ซึ่งมีหน่วยเป็น มิลลิเมตร
6. ก้าน (Stem) ส่วนที่ใช้ยึดไดอัลเกจให้มั่นคงขณะวัดค่าของชิ้นงาน
7. หัววัด (Contact Point ) ส่วนที่สัมผัสกับตัวชิ้นงานเพื่อทำการวัดค่า
ข้อควรจำในการใช้งานไดอัลเกจเพื่อความแม่นยำและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
เพื่อให้การวัดด้วยไดอัลเกจ (Dial Gauge)มีความแม่นยำสูงสุดและช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องมืออันมีค่านี้ ควรใส่ใจและปฏิบัติตามข้อควรจำที่สำคัญดังต่อไปนี้
1. ตรวจสอบความสะอาด (Ensure Cleanliness)
- ทำความสะอาดพื้นผิวชิ้นงาน: ก่อนทำการวัดทุกครั้ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นผิวของชิ้นงานที่จะสัมผัสกับ จุดสัมผัส (Contact Point) ของไดอัลเกจนั้นสะอาด ปราศจากฝุ่นละออง, คราบน้ำมัน, เศษโลหะ หรือสิ่งสกปรกอื่นๆ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นอุปสรรคและทำให้ค่าที่วัดได้คลาดเคลื่อน
- ทำความสะอาดจุดสัมผัส: ทำความสะอาด แกนสัมผัส (Plunger) และ จุดสัมผัส ของไดอัลเกจอย่างสม่ำเสมอ ใช้ผ้าสะอาดและแห้งเช็ดเบาๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่อาจเกาะติด
2. ติดตั้งไดอัลเกจให้มั่นคง (Secure Mounting)
- ใช้ฐานยึดที่เหมาะสม: เลือกใช้ ขาตั้งแม่เหล็ก (Magnetic Base) คุณภาพดี หรืออุปกรณ์ยึด (Clamp) ที่มีความแข็งแรงและมั่นคง เพื่อลดการสั่นสะเทือนและการเคลื่อนที่ของไดอัลเกจขณะทำการวัด การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลต่อความแม่นยำของค่าที่อ่านได้
- ขันยึดให้แน่นหนา:ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไดอัลเกจถูกยึดเข้ากับฐานอย่างแน่นหนา ไม่มีการคลอนหรือขยับเขยื้อน
3. ตั้งค่าศูนย์ทุกครั้งก่อนการวัด (Always Zero Before Measurement)
- ตั้งค่าบนพื้นผิวอ้างอิง: ก่อนที่จะวัดชิ้นงานจริง ควรตั้งค่าให้ เข็มชี้ (Pointer) บน หน้าปัด (Dial Face) ชี้ที่เลขศูนย์ (0) บนพื้นผิวอ้างอิงที่ทราบค่าแน่นอน (เช่น เกจบล็อก (Gauge Block) หรือพื้นผิวเรียบที่ได้มาตรฐาน) การตั้งค่าศูนย์ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความแม่นยำของการวัด
- ตรวจสอบการตั้งค่า: หลังจากตั้งค่าศูนย์แล้ว ควรตรวจสอบอีกครั้งก่อนเริ่มทำการวัดชิ้นงาน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการเคลื่อนที่ของหน้าปัดหรือเข็ม
4. อ่านค่าจากมุมที่เหมาะสม (Read from the Correct Angle) มองในแนวตั้งฉาก: ขณะอ่านค่าบนหน้าปัด ให้สายตาอยู่ในแนวตั้งฉากโดยตรงกับเข็มชี้และสเกล เพื่อหลีกเลี่ยง ความผิดพลาดจากมุมมองที่คลาดเคลื่อน (Parallax error) การมองจากมุมเฉียงอาจทำให้การอ่านค่าไม่ตรงกับตำแหน่งที่แท้จริงของเข็ม
5. ดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ (Regular Maintenance)
- ทำความสะอาดหลังใช้งาน: หลังจากการใช้งานทุกครั้ง ควรใช้ผ้าสะอาดและแห้งเช็ดทำความสะอาดตัวเครื่อง, แกนสัมผัส, และหน้าปัด เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและความชื้น
- จัดเก็บอย่างเหมาะสม: เก็บไดอัลเกจไว้ในกล่องเก็บอุปกรณ์ (Case) ที่มีบุรองกันกระแทก เพื่อป้องกันความเสียหายจากการตกหล่นหรือการกระแทก
- หลีกเลี่ยงการใช้งานเกินขีดจำกัด: ใช้งานไดอัลเกจภายในช่วงการวัดที่กำหนด หากพยายามวัดค่าที่เกินกว่าช่วงการวัด อาจทำให้กลไกภายในเสียหายได้
- ตรวจสอบและสอบเทียบ (Calibration): ควรมีการตรวจสอบความแม่นยำและทำการ สอบเทียบ (Calibration) ไดอัลเกจเป็นระยะตามกำหนด เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องมือยังคงให้ค่าที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ การสอบเทียบควรดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญหรือหน่วยงานที่ได้รับการรับรอง
ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้งานไดอัลเกจ: รู้ทัน ป้องกันได้ ปัญหาบางประการที่ส่งผลต่อความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของการวัดได้ การทำความเข้าใจปัญหาเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงและแก้ไขได้อย่างเหมาะสม
| ปัญหาที่พบบ่อย | อาการ | สาเหต | วิธีแก้ไข |
|---|---|---|---|
การติดตั้งที่ไม่มั่นคง (Unstable Mounting) |
ไดอัลเกจสั่นคลอนหรือเคลื่อนที่ขณะทำการวัด ทำให้เข็มชี้ไม่นิ่งและอ่านค่าได้ยาก |
ฐานแม่เหล็กยึดไม่แน่น, อุปกรณ์จับยึดไม่แข็งแรง, การวางฐานบนพื้นผิวที่ไม่เรียบหรือไม่มั่นคง |
เลือกใช้ฐานแม่เหล็กหรืออุปกรณ์จับยึดที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับลักษณะงาน, ตรวจสอบและขันยึดให้แน่นหนาก่อนทำการวัด, วางฐานบนพื้นผิวที่มั่นคงและเรียบ |
พื้นผิวชิ้นงานหรือจุดสัมผัสสกปรก (Dirty Workpiece or Contact Point) |
ค่าที่วัดได้ไม่คงที่, เข็มชี้กระตุกหรือไม่เคลื่อนที่อย่างราบรื่น, ค่าที่วัดได้คลาดเคลื่อน |
มีฝุ่นละออง, คราบน้ำมัน, เศษโลหะ หรือสิ่งสกปรกอื่นๆ บนพื้นผิวชิ้นงานหรือที่ จุดสัมผัส (Contact Point) ของไดอัลเกจ |
ทำความสะอาดพื้นผิวชิ้นงานและจุดสัมผัสด้วยผ้าสะอาดและแห้งก่อนทำการวัด |
การตั้งค่าศูนย์ที่ไม่ถูกต้อง (Incorrect Zeroing) |
ค่าที่วัดได้มีความคลาดเคลื่อนอย่างสม่ำเสมอ |
การตั้งค่า เข็มชี้ (Pointer) ไม่ตรงกับเลขศูนย์ (0) บน หน้าปัด (Dial Face) ก่อนทำการวัด, การตั้งค่าศูนย์บนพื้นผิวที่ไม่ใช่ค่าอ้างอิงที่ถูกต้อง |
ตั้งค่าศูนย์บนพื้นผิวอ้างอิงที่ทราบค่าแน่นอน (เช่น เกจบล็อก (Gauge Block)), ตรวจสอบการตั้งค่าศูนย์ซ้ำก่อนเริ่มวัด |
การอ่านค่าที่ผิดพลาด (Reading Errors) |
ค่าที่อ่านได้ไม่ตรงกับตำแหน่งที่แท้จริงของเข็ม |
การอ่านค่าจากมุมเฉียง (Parallax error), การอ่านค่าสเกลผิดพลาด, การมองไม่เห็นสเกลชัดเจน |
อ่านค่าโดยให้สายตาอยู่ในแนวตั้งฉากกับหน้าปัด, ทำความเข้าใจสเกลและค่าความละเอียดของไดอัลเกจอย่างถูกต้อง, ตรวจสอบให้มีแสงสว่างเพียงพอขณะอ่านค่า |
ความเสียหายของเครื่องมือ (Damage to the Instrument) |
เข็มชี้ค้าง, กลไกภายในติดขัด, แกนสัมผัสไม่เคลื่อนที่, หน้าปัดแตก |
การตกหล่น, การกระแทก, การใช้งานเกินขีดจำกัด, การจัดเก็บที่ไม่เหมาะสม |
ระมัดระวังในการใช้งานและจัดเก็บ, ใช้งานภายในช่วงการวัดที่กำหนด, หากเครื่องมือเสียหายควรส่งซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ |
แรงกดในการวัดที่ไม่เหมาะสม (Inconsistent Measuring Force) |
ค่าที่วัดได้แตกต่างกันเมื่อทำการวัดซ้ำ |
การออกแรงกดบนแกนสัมผัสไม่สม่ำเสมอ |
พยายามออกแรงกดอย่างสม่ำเสมอขณะทำการวัด (ในไดอัลเกจบางรุ่นอาจมีกลไกควบคุมแรงกด) |
การไม่สอบเทียบเครื่องมือ (Lack of Calibration) |
ค่าที่วัดได้คลาดเคลื่อนไปจากค่ามาตรฐาน |
ไดอัลเกจไม่ได้ถูกสอบเทียบเป็นระยะเวลานาน ทำให้ความแม่นยำลดลง |
ทำการ สอบเทียบ (Calibration) ไดอัลเกจตามระยะเวลาที่กำหนดโดยผู้เชี่ยวชาญหรือหน่วยงานที่ได้รับการรับรอง |
หมายเหตุ
สอบเทียบไดอัลเกจ (Dial Gauge Calibration) เป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของเครื่องมือวัดนี้ การสอบเทียบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้มั่นใจว่าผลการวัดเป็นไปตามมาตรฐานและสามารถนำไปใช้งานได้อย่างมั่นใจ ควรทำการสอบเทียบโดยผู้เชี่ยวชาญหรือหน่วยงานที่ได้รับการรับรอง และปฏิบัติตามความถี่ที่เหมาะสมกับการใช้งานและข้อกำหนดต่างๆ
วิดีโอนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบเทียบไดอัลเกจสรุปข้อมูลทั้งหมดได้ดังนี้:
สรุปเนื้อหา วิดีโอแสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการสอบเทียบไดอัลเกจอย่างละเอียด รวมถึงการทดสอบค่าการทำซ้ำทั้งแบบช้าและเร็ว การหาค่าความถูกต้องทั้งขาขึ้นและขาล และการทดสอบแรงกดของเครื่องมือ
เครื่องมือที่ใช้: [00:09]
- ไดอัลเกจ (Measuring Range 0-10 มม., Least Count 0.01 มม.)
- ไดอัลเกจเทสเตอร์ (Measuring Range 0-25 มม., Least Count 0.001 มม.)
- ตุ้มน้ำหนักมาตรฐาน (สำหรับทดสอบแรงกด)
- แท่นจับยึด
การหาค่าการทำซ้ำ (Repeatability): [00:32]
การปล่อยแบบช้า (Slow Release)[00:44]
- เลื่อนสเกลไปที่ 20% ของช่วงการวัด (2 มม.) และปล่อยช้าๆ อ่านค่า ทำซ้ำ 5 ครั้ง
- เลื่อนสเกลไปที่ 80% ของช่วงการวัด (8 มม.) และปล่อยช้าๆ อ่านค่า ทำซ้ำ 5 ครั้ง
การปล่อยแบบเร็ว (Fast Release)[02:09]
- เลื่อนสเกลไปที่ 20% ของช่วงการวัด (2 มม.) และปล่อยเร็วๆ อ่านค่า ทำซ้ำ 5 ครั้ง [02:09]
- เลื่อนสเกลไปที่ 80% ของช่วงการวัด (8 มม.) และปล่อยเร็วๆ อ่านค่า ทำซ้ำ 5 ครั้ง[02:51]
การหาค่าความถูกต้อง (Accuracy): [03:47]
Forward (ดัน Plunger ขึ้น)[04:04]
- วัดที่ 0 มม. [04:14]
- วัดที่ 1 มม.[04:26]
- วัดที่ 5 มม. [04:39]
- วัดที่ 10 มม. [04:52]
Backward (ปล่อย Plunger ลง): [05:09]
- วัดที่ 10 มม. [05:16]
- วัดที่ 5 มม. [05:28]
- วัดที่ 1 มม. [05:40]
- วัดที่ 0 มม. [05:52]
การทดสอบแรงกด (Measuring Force Test): [06:06]
ทำการทดสอบแรงกดของไดอัลเกจที่ตำแหน่งต่างๆ โดยใช้ตุ้มน้ำหนักมาตรฐาน [06:12]
ความถี่ในการสอบเทียบ (Calibration Frequency)
ความถี่ในการสอบเทียบไดอัลเกจขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น:
- ความถี่ในการใช้งาน: หากใช้งานบ่อย ควรสอบเทียบบ่อยขึ้น
- สภาพแวดล้อมในการใช้งาน: สภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น, ความชื้น, หรืออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงบ่อย อาจส่งผลต่อความแม่นยำ
- ความสำคัญของความแม่นยำ: หากความแม่นยำในการวัดมีความสำคัญมาก ควรสอบเทียบบ่อยขึ้น
- ข้อกำหนดของมาตรฐาน: มาตรฐาน ISO หรือมาตรฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอาจกำหนดความถี่ในการสอบเทียบ โดยทั่วไปแล้ว ควรพิจารณาทำการสอบเทียบไดอัลเกจอย่างน้อยปีละครั้ง หรือตามคำแนะนำของผู้ผลิต
หากคุณคือช่างเทคนิค วิศวกร หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานตรวจสอบทางกล การมี ไดอัลเกจคุณภาพดี ไว้ใช้งานคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมันช่วยให้คุณสามารถวัดค่าเบี่ยงเบน ความเรียบ หรือการเยื้องศูนย์ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ลดข้อผิดพลาด เพิ่มคุณภาพงาน และเสริมความเป็นมืออาชีพให้กับตัวคุณ
การตระหนักถึงปัญหาที่พบบ่อยเหล่านี้และการเรียนรู้วิธีแก้ไข จะช่วยให้คุณสามารถใช้งาน ไดอัลเกจ (Dial Gauge) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาดในการวัด และยืดอายุการใช้งานของเครื่องมืออันทรงคุณค่านี้ครับ หากพบปัญหาในการใช้งาน อย่าลังเลที่จะตรวจสอบและแก้ไขตามแนวทางที่ได้กล่าว
การปฏิบัติตามข้อควรจำเหล่านี้อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้คุณสามารถใช้งาน ไดอัลเกจ (Dial Gauge) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผลการวัดที่แม่นยำ และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือวัดละเอียดนี้ไปอีกนานครับ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์
หากคุณกำลังมองหา แหล่งจำหน่าย ไดอัลเกจ (Dial Gauge) คุณภาพสูงสำหรับงานการเลือกผู้จัดจำหน่ายที่เชื่อถือได้และมี ไดอัลเกจ (Dial Gauge) หลากหลายประเภทพร้อมตอบโจทย์ความต้องการของคุณเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะแนะนำแนวทางการ สั่งซื้อไดอัลเกจ (Dial Gauge) และสิ่งที่ควรพิจารณาเพื่อให้ได้ ไดอัลเกจ (Dial Gauge) ที่มีคุณภาพและตรงตามสเปค
หากสนใจในการสั่งชื้อสินค้า ไดอัลเกจ (Dial Gauge) สามารถเช็คราคาล่าสุดที่ตรงใจและตรงต่อการนำไปใช้งานคุ้มค่ากับงบประมาณโดยการแอดไลน์ได้ที่นี่เลย @northpower หรือ คลิกสอบถามแอดมิน ที่คอยบริการให้ข้อมูลสินค้าช่วยเทียบสเปคสินค้าตั้งแต่ 8:00 - 17:00 แอดเลยไม่ต้องรอ