กระบอกลม คืออะไร มีกี่แบบ และทำงานอย่างไร?

กระบอกลม หรือ กระบอกสูบลม คือ

กระบอกลม หรือ air cylinder คืออุปกรณ์ที่ใช้ลมทำให้ก้านกระบอกลมเคลื่อนที่ไปในแนวเส้นตรง หรือหมุน 90, 180, 270 หรือ 360 องศา เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานในรูปแบบความดันลมให้เป็นพลังงานกลในรูปแบบของการเคลื่อน

กระบอกลม มี กี่ แบบ

การะบอกลมจะแบ่งประเภทแบ่งตามลักษณะการทำงานหรือการเคลื่อนที่ ซึ่งมีทั้งหมด 5 แบบ

กระบอกลม ทางเดียว

กระบอกลม ทางเดียว คือกระบอกสูบลมที่ใช้แรงดันในการเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวและจะมีสปริงอยู่ภายในเพื่อดันลูกสูบกลับเข้าที่ให้พร้อมใช้งานใน ครั้งต่อไป เหมาะกับการโหลดงานที่ไม่มากนัก เพราะสามารถใช้งานได้แม้ในกรณีที่ไฟฟ้าดับ

กระบอกลม 2 ทาง

กระบอกลม 2 ทาง คือ กระบอกสูบลมที่ใช้แรงดันอากาศทั้งสองทางในการเคลื่อนที่โดยทำงานสลับ เมื่อด้านหนึ่งผลิตแรงดัน อีกด้านจะเป็นตัวจ่ายแรงดันอากาศเหมาะกับงานที่ต้องการการเคลื่อนที่ในแนวตรงและระยะชักที่ยาวเพราะแรงดันอากาศจะมีความคงที่กว่ากระบอกสูบแบบทางเดียว

กระบอกลม โรตารี่ หรือ กระบอกลม แบบหมุน

กระบอกลม โรตารี่ คือ อุปกรณ์ทำงานที่เปลี่ยนการเคลื่อนที่ในแนวตรงของลูกสูบให้เป็นการเคลื่อนที่ในแนวหมุน โดยที่ก้านสูบจะมีเฟืองสะพาสนซึ่งขบกับเฟืองวงกลมของล้อตามเมื่อก้านสูบเคลื่อนที่เข้า-ออก ก็จะทำให้ล้อตามเกิดการเคลื่อนที่ให้ลักษณะหมุนกลับไปกลับมาด้วยเช่นกัน

กระบอกลมไร้แกน

กระบอกลมไร้แกน (Rodless cylinder) คือ กระบอกลมที่สามารถเคลื่อนย้ายวัตถุในเชิงเส้นได้ ในขณะที่กระบอกลมแบบอื่นๆที่กล่าวมา ใช้แกนลูกสูบในการผลักหรือดึงวัตถุจากลูกสูบ กระบอกลมไร้แกนเหมาะกับพื้นที่ที่มีจำกัด ไม่ต้องกังวลว่าก้านลูกสูบจะโก่งงอตัวเมื่อรับน้ำหนักมากหรือระยะชักยาว ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ประเภท

Telescoping cylinder

Telescoping Cylinder คือ กระบอกสูบที่ประกอบด้วยแกนลูกสูบที่ซ้อนกันอยู่ภายในจากใหญ่ไปหาเล็ก ซึ่งสามารถทำระยะชักได้หลากหลายในตัวเดียวกัน โดยประโยชน์หลักของกระบอกสูบนิวเมติกส์แบบนี้ คือ ประหยัดเรื่องพื้นที่ในการจัดเก็บของตัวกระบอกและความยาวได้มากกว่ากระบอกทั้งแบบทางเดียวและกระบอกแบบ 2 ทาง ซึ่งเหมาะกับงานที่มีพื้นที่จำกัด

ส่วนประกอบ กระบอกลม

ข้อดี–ข้อเสียของกระบอกลม

✅ ข้อดีของกระบอกลม

• ต้นทุนต่ำ – ราคาถูกกว่าไฮดรอลิกและระบบไฟฟ้า
• ปลอดภัย – ใช้อากาศ ไม่ติดไฟ ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
• น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย – ตัวกระบอกทำจากอลูมิเนียม/เหล็ก น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก
• ทำงานได้รวดเร็ว – เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วสูง
• ดูแลรักษาง่าย – ส่วนประกอบไม่ซับซ้อน ซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่ได้ง่าย
• ทนทานต่อการทำงานต่อเนื่อง – ใช้ในสายการผลิตอัตโนมัติได้ดี
• ใช้งานได้แม้ไฟฟ้าดับ – เพียงมีแหล่งลมอัดสำรอง

❌ ข้อเสียของกระบอกลม

• แรงดันและกำลังจำกัด – ให้แรงน้อยกว่ากระบอกไฮดรอลิก จึงไม่เหมาะกับงานที่ต้องการแรงกดสูง
• เสียงดัง – การปล่อยลมอัดออกทำให้เกิดเสียงมากกว่าไฟฟ้า
• ต้องการแหล่งลมคุณภาพดี – หากมีน้ำมันหรือความชื้นปนในลม จะทำให้ซีลและชิ้นส่วนสึกหรอง่าย
• ความแม่นยำต่ำกว่าระบบไฟฟ้า – ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการควบคุมตำแหน่งละเอียด
• การรั่วซึมทำให้ประสิทธิภาพลดลง – ต้องตรวจสอบซีลและข้อต่อบ่อย ๆ
• เปลืองพลังงานในบางกรณี – หากระบบอัดลมมีการรั่วมาก จะทำให้สิ้นเปลืองไฟฟ้าที่ใช้ในการอัดลม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกระบอกลม (Air Cylinder FAQ)

1. กระบอกลมใช้แรงดันกี่บาร์?

• โดยทั่วไป กระบอกลมทำงานที่แรงดัน 3–7 บาร์ (ประมาณ 0.3–0.7 MPa) ซึ่งเป็นแรงดันมาตรฐานของระบบนิวเมติกส์ในโรงงานอุตสาหกรรม แต่บางรุ่นอาจรองรับแรงดันได้สูงกว่านี้ตามสเปคของผู้ผลิต

2. กระบอกลมทนความร้อนได้แค่ไหน?

• รุ่นมาตรฐาน: ทนอุณหภูมิได้ประมาณ –10°C ถึง 70°C
• รุ่นทนความร้อนพิเศษ: ใช้ซีลและวัสดุทนความร้อน สามารถทนได้ถึง 150°C หรือสูงกว่า (ขึ้นกับผู้ผลิตและวัสดุซีล)

3. อายุการใช้งานเฉลี่ยกี่ปี?

• โดยทั่วไป กระบอกลมมีอายุการใช้งาน 5–10 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัย เช่น คุณภาพลมอัด (ต้องแห้งและสะอาด) การบำรุงรักษา (เปลี่ยนซีล, ตรวจรั่วซึม) ความถี่ในการใช้งานและแรงดันที่ใช้

4. กระบอกลมกับกระบอกสูบไฮดรอลิกต่างกันยังไง?

• กระบอกลม (Pneumatic Cylinder): ใช้อากาศอัด, ทำงานเร็ว, ปลอดภัย, ราคาถูก แต่แรงกดน้อยกว่า
• กระบอกไฮดรอลิก (Hydraulic Cylinder): ใช้น้ำมันไฮดรอลิก, ให้แรงกดสูงมาก, เคลื่อนที่ช้ากว่า, ราคาสูงกว่า, ต้องการการบำรุงรักษามากกว่า

หากสนใจในการสั่งชื้อ กระบอกลม (Air Cylinder) สามารถเช็คราคาล่าสุดที่ตรงใจและตรงต่อการนำไปใช้งานคุ้มค่ากับงบประมาณโดยการแอดไลน์ได้ที่นี่เลย @northpower หรือ คลิกสอบถามแอดมิน ที่คอยบริการให้ข้อมูลสินค้าช่วยเทียบสเปคสินค้าตั้งแต่ 8:00 - 17:00 แอดได้เลย อย่ารอช้า