คอลเลกชัน: สวิตซ์หยุดฉุกเฉิน ( Emergency Stop Switches )

สวิตซ์หยุดฉุกเฉิน หรือที่มักเรียกกันว่า E-Stop Switch เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ถูกติดตั้งไว้ในระบบเครื่องจักรกล อุปกรณ์อัตโนมัติ หรือสายการผลิต เพื่อใช้เป็นทางเลือกสุดท้ายในการหยุดการทำงานของเครื่องจักรทันที เมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ อันตราย หรือมีความเสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายต่อบุคลากรและทรัพย์สิน ถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการด้าน ความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Preventive Safety) ที่ทุกโรงงานและอุตสาหกรรมสมัยใหม่ให้ความสำคัญอย่างมาก

แบรนด์สวิตซ์หยุดฉุกเฉิน (Emergency Stop Switches) ที่ นอร์ท พาวเวอร์ จัดจำหน่าย

บทบาทของสวิตซ์หยุดฉุกเฉิน

  • การหยุดเครื่องจักรทันที: เป็นฟังก์ชันหลักที่ช่วยตัดพลังงานหรือหยุดการทำงานของอุปกรณ์ได้ในเวลาอันสั้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
  • การควบคุมความปลอดภัย: ทำหน้าที่เป็น "ด่านสุดท้าย" ของการป้องกัน เมื่อระบบอัตโนมัติหรือเซนเซอร์ควบคุมต่าง ๆ ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้
  • ใช้งานง่าย: มักถูกออกแบบให้เป็นปุ่มสีแดง ขนาดใหญ่ หรืออยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นและเข้าถึงได้ง่าย เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถกดได้ทันทีแม้ในภาวะฉุกเฉิน
  • หยุดวงจรไฟฟ้า: สวิตซ์หยุดฉุกเฉินส่วนใหญ่เชื่อมต่อโดยตรงกับวงจรไฟฟ้าควบคุมหลักของเครื่องจักร เพื่อให้มั่นใจว่าการหยุดเครื่องนั้นมีผลครอบคลุมทุกระบบ

ความสำคัญของสวิตซ์หยุดฉุกเฉิน

  • เพิ่มความปลอดภัยของบุคลากร: การมีสวิตซ์หยุดฉุกเฉินช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บของพนักงานที่ปฏิบัติงานใกล้เครื่องจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เสื้อผ้าหรืออวัยวะอาจถูกเครื่องจักรหนีบ ดึง หรือกระแทก
  • ป้องกันความเสียหายต่อเครื่องจักรและสิ่งแวดล้อม: หากเครื่องจักรเกิดความผิดปกติหรือทำงานผิดพลาด การหยุดเครื่องทันทีช่วยลดความเสียหายต่ออุปกรณ์ ตลอดจนลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม เช่น การรั่วไหลของสารเคมีหรือการลุกไหม้
  • เป็นมาตรฐานด้านความปลอดภัย: หลายประเทศและองค์กรอุตสาหกรรมได้กำหนดให้มีการติดตั้งสวิตซ์หยุดฉุกเฉินเป็นข้อบังคับในเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยสากล (เช่น ISO, IEC, OSHA)
  • สร้างความมั่นใจในการทำงาน: เมื่อผู้ปฏิบัติงานทราบว่ามีระบบหยุดฉุกเฉินที่สามารถใช้งานได้จริง ย่อมเพิ่มความมั่นใจในการทำงานและลดความเครียดที่อาจเกิดจากความกังวลเรื่องความปลอดภัย

ส่วนประกอบโดยทั่วไปของ สวิตซ์หยุดฉุกเฉิน (Emergency Stop Switch)

1. Stainless screw (สกรูสแตนเลส)
ใช้ยึดส่วนต่างๆ เข้าด้วยกัน มักใช้สแตนเลสเพื่อป้องกันสนิม

2. PC flame retardant transparent cover (ฝาครอบใสแบบ PC หน่วงไฟ)
ทำจากพลาสติกโพลีคาร์บอเนต (PC) ซึ่งมีคุณสมบัติหน่วงไฟและโปร่งใส ช่วยให้มองเห็นปุ่มด้านในได้ ในขณะเดียวกันก็ให้การป้องกัน

3. Spring butt hinge (บานพับก้นสปริง)
ทำหน้าที่เป็นกลไกเปิด-ปิดฝาครอบ ซึ่งอาจหมายถึงบานพับที่มีสปริงช่วยในการทำงานหรือปิดฝาอย่างแน่นหนา

4. Silicone waterproof ring (วงแหวนซิลิโคนกันน้ำ)
เป็นซีลซิลิโคนที่ติดตั้งอยู่ด้านในกล่องหุ้ม เพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นเข้าสู่ภายใน ทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติกันน้ำ (waterproof)

5. Knob (ลูกบิด/ปุ่ม)
คือส่วนที่เป็นปุ่มกดสีแดงที่อยู่ด้านในกล่องหุ้ม ซึ่งน่าจะเป็น ปุ่มหยุดฉุกเฉิน (Emergency Stop Button) หรือปุ่มควบคุมหลัก

6. Fall off proof screw (สกรูแบบป้องกันการหลุด)
เป็นสกรูที่ออกแบบมาให้ติดอยู่กับฝาหรือตัวกล่องเมื่อคลายออก เพื่อป้องกันการทำสกรูตกหายระหว่างการติดตั้งหรือบำรุงรักษา

7. Cable entry (ทางเข้าสายเคเบิล)
คือจุดสำหรับนำสายเคเบิลเข้าสู่กล่องหุ้ม มักมาพร้อมกับต่อมรัดสาย (cable gland) เพื่อให้การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างแน่นหนาและยังคงคุณสมบัติกันน้ำไว้

Photoelectric Sensors (โฟโตอิเล็กทริกเซนเซอร์)

การเลือกใช้ สวิตซ์หยุดฉุกเฉิน ให้เหมาะกับงาน และอุตสาหกรรม

หัวข้อ รายละเอียด
1. ความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการทำงาน
  • อุตสาหกรรมทั่วไป - ใช้สวิตซ์หยุดฉุกเฉินแบบมาตรฐาน แข็งแรง ทนทานต่อแรงกด ใช้งานง่าย
  • อุตสาหกรรมหนัก - ควรเลือกแบบทนแรงกระแทก กันฝุ่น/น้ำ (มาตรฐาน IP65 ขึ้นไป) ใช้งานได้ในสภาพฝุ่น ความร้อนสูง หรือแรงสั่นสะเทือน
  • อุตสาหกรรมเคมีและปิโตรเคมี - ต้องทนสารเคมีและการกัดกร่อน วัสดุไม่ทำปฏิกิริยากับสารอันตราย มีมาตรฐานป้องกันการระเบิด (Explosion-proof)
  • อุตสาหกรรมอาหารและยา - ใช้สแตนเลสหรือพลาสติกเกรดพิเศษ ป้องกันการปนเปื้อน ทำความสะอาดง่าย ได้มาตรฐาน Hygienic Design
2. ลักษณะการติดตั้งและการเข้าถึง
  • ติดตั้งในตำแหน่งที่เข้าถึงง่าย เช่น ข้างสายพานลำเลียง หน้าตู้ควบคุม หรือใกล้ผู้ปฏิบัติงาน
  • เครื่องจักรยาวมาก ควรใช้แบบ เชือกดึง (Pull Cord E-Stop) ตลอดแนว
  • ระบบอัตโนมัติขนาดใหญ่ ควรเชื่อมต่อวงจรควบคุมศูนย์กลาง เพื่อหยุดทั้งไลน์การผลิตได้ทันที
3. มาตรฐานและข้อกำหนดด้านความปลอดภัย
  • ควรผ่านมาตรฐานสากล เช่น IEC 60947-5-5, ISO 13850, OSHA
  • ระบบต้องเป็นแบบ Fail-safe หากวงจรหรือสวิตซ์ขัดข้อง เครื่องจักรจะหยุดทำงานทันที
4. การออกแบบทางกายภาพและการใช้งาน
  • ปุ่มสี แดงสด ติดตั้งบนพื้นแผ่นสี เหลือง ตามมาตรฐานสากล
  • มีขนาดใหญ่พอสำหรับกดด้วยมือ หรือแม้กระทั่งข้อศอก/เท้า
  • ระบบ Reset ต้องปลอดภัย เช่น ต้องดึง/หมุนปุ่มออกก่อนจึงรีเซ็ตได้
5. ความคุ้มค่าและการบำรุงรักษา
  • เลือกอุปกรณ์ที่บำรุงรักษาง่าย มีอะไหล่สำรอง รองรับอายุการใช้งานเครื่องจักร
  • พิจารณาต้นทุนระยะยาว ทั้งค่าซื้อ ค่าซ่อม และความเสียหายหากขาดอุปกรณ์ที่เหมาะสม

ประเภทของ Emergency Stop Switch

Push Button Type

ปุ่มกดมาตรฐานที่พบได้ทั่วไปในสายการผลิต

Push Button Type

Pull Cord Type

ใสวิตซ์เชือกดึง เหมาะกับสายพานลำเลียงที่มีระยะยาว เพราะพนักงานสามารถดึงเชือกเพื่อหยุดเครื่องได้จากหลายตำแหน่ง

Pull Cord Type

Lever Type

ใช้คันโยกเพื่อหยุดฉุกเฉิน มักพบในเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ต้องการแรงกดดันชัดเจน

Lever Type

ตัวแทนจำหน่าย สวิตซ์หยุดฉุกเฉิน ( Emergency Stop Switches )

ช่องทางการติดต่อ

*เพื่อความรวดเร็ว ทางเราแนะนำให้แอดไลน์ เนื่องจากจะมีแอดมินคอยสแตนบายตอบตลอด ตั้งแต่เวลา 8:00 AM - 6:00 PM*